แอตแลนติส (Atlantis) ตำนานแห่งมหานครที่สาบสูญ

 

แอตแลนติส (Atlantis) ตำนานแห่งมหานครที่สาบสูญ

แอตแลนติส (Atlantis) ตำนานแห่งมหานครที่สาบสูญ

ถ้าพูดถึงนครที่สาบสูญหรือยังหาไม่เจอ เชื่อว่าหลายคนคงจะคิดถึงนครที่จมอยู่ใต้บาดาลอย่าง นครแอตแลนติสอย่างแน่นอนเพราะเป็นเมืองที่มีเรื่องเล่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นนิยาย ตำนานเรื่องเล่าหรือแม้แต่มีบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล ก็ยังมีการพูดถึงนครที่หายสาบสูญอย่างแอตแลนติสอยู่ด้วย และในบทความนี้จะมาเล่าเกี่ยวกับตำนานรวมถึงสิ่งที่ถูกบันทึกไว้เกี่ยวกับนครที่ยังไม่มีใครหาเจออย่าง นครแอตแลนติสนั้นเอง

มีตำนานอีกมากมายรอให้ท่านได้พิสูจน์ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน

ข้อมูลที่ถูกบันทึกเกี่ยวกับนครแอตแลนติส

ตามข้อมูลที่บันทึกไว้แอตแลนติส คืออาณาจักรโบราณที่เป็นเมืองอารยธรรมที่สูญหายไปในท้องทะเลแถบหมู่เกาะ Cyprus ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นเมืองลึกลับที่คนบนโลกพูดถึงกันเยอะมากว่ามีอยู่จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่นิยายเป็นเมืองที่ไม่มีจริงแค่เล่าต่อๆกันมาแค่นั้น แต่ในประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้มีอยู่ 2 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่บันทึกว่าเมืองแอตแลนติส น่าจะมีอยู่จริงบนโลกอย่างคัมภีร์ไบเบิลและบันทึกของชาวกรีกโบราณอย่าง Plato ตามข้อมูลบอกไว้ว่า Plato เป็นนักปราชญ์ชาวกรีกโบราณผู้ซึ่งเริ่มคิดทฤษฎีอาณาจักรแอตแลนติส มีอยู่จริงบนโลก โดยได้เขียนเรื่องราวการมีอยู่ของแอตแลนติสไว้เมื่อประมาณ 300 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งตามข้อมูลของ บอกว่าอายุของอาณาจักรที่สูญหาย มีอายุประมาณ 9,000 ปี โดยหนังสือที่ Plato เป็นคนเขียนมีชื่อว่า Timaeus And Critias พร้อมทั้งอ้างถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ของกรีกคนหนึ่งอย่าง Solon ที่เป็นรัฐบุรุษคนหนึ่งของชาวกรีก ในยุคเมื่อประมาณ 600 ปีก่อนคริสตศักราช ว่า Solon เป็นคนนำมาเผยแพร่หลังจากที่ได้รับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับอาณาจักรแอตแลนติส จากนักบวชชาวอียิปต์คนหนึ่ง และในบันทึกยังบอกอีกว่าอารยธรรมโบราณต่างๆบนโลกเรา ไม่ว่าจะเป็นทางอารยธรรมของอียิปต์โบราณเมโสโปเตเมีย ชนเผ่าอินคา ชนเผ่ามายา หรือแม้แต่จะเป็น พีระมิดก็เป็นมรดกมาจากชาวแอตแลนติสทั้งสิ้น และตามบันทึกบอกว่าแอตแลนติสไม่ใช่เมือง และไม่ใช่ประเทศแต่มันคือทวีปหนึ่งทวีปเลย

 

เทคโนโลยีในนครแอตแลนติส

ในบันทึกยังบอกรายละเอียดต่างๆ ในเมืองแอตแลนติสอีกด้วยว่าในเมือง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถเรียกฟ้าเรียกฝนได้ตามใจคิด สามารถปรับสภาพอากาศได้และควบคุมน้ำหรือท้องทะเลบริเวณรอบๆตัวเมืองแอตแลนติสได้ และผู้คนมีความฉลาดหลักแหลมมาก รวมถึงมีอายุเฉลี่ยยืนยาวถึง 800 ปีเลยทีเดียว และที่สำคัญที่สุดคือตามบันทึกได้บอกว่าชาวเมืองแอตแลนติส ไม่ได้เป็นคนธรรมดาที่อยู่บนโลกแต่เป็นมนุษย์ที่มาจากดวงดาวดวงอื่น หรือมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง โดยลักษณะของอาณาจักรจะมีลักษณะคล้ายกับวงกลมอยู่ 3 รอบวงครอบคลุม ตัวเมืองทั้งหมดเลย โดย 3 รอบวงนี้แต่ละวงก็จะมีความหมาย เป็นการแบ่งวรรณะชนชั้นต่างๆ เช่นชนชั้นกษัตริย์ ชนชั้นคนธรรมดา และชนชั้นทหารเป็นต้น และข้อสันนิษฐานการล่มสลายของอาณาจักรมีอยู่เยอะแยะมากมายมากทั้งที่เคยได้ยินแล้วก็เราไม่เคยได้ยิน ทั้งเกิดโรคภัยไข้เจ็บในยุคนั้น โรคระบาดที่ไม่สามารถรักษาได้ เกิดการกรียุคมีการต่อสู้มีการรบราฆ่าฟันแก่งแย่งชิงอำนาจกันครั้งใหญ่ในยุคนั้น หรือถ้าเอาสิ่งที่คนเชื่อกันมากที่สุดและสิ่งนี้เป็นหลักความเชื่อมั่นก็คือ การถูกทำลายด้วยความพิโรธของเทพโพไซดอนผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพผู้สร้างนครแอตแลนตีสขึ้นมา และเนื่องจากว่าเกิดการรบราฆ่าฟันเพื่อแก่งแย่งชิงอำนาจ เทพโพไซดอนก็เลยทำลายแอตแลนติสลง ด้วยการสั่งให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆนั้นเอง

แอตแลนติส (Atlantis) ตำนานแห่งมหานครที่สาบสูญ

ทฤษฎีสมคบคิด

ตามข้อมูลได้บอกว่ามีทีมนักสำรวจทีมหนึ่ง ได้ไปเจอพื้นที่ที่เขาคาดกันว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองแอตแลนติสจริง และตำแหน่งนั้นปัจจุบันอยู่ที่ทางใต้ของสเปน โดยในบันทึกของ Plato ได้บอกว่าเมืองแอตแลนติสเป็นเมืองที่มีวงแหวนอยู่ล้อมรอบเมือง 3 วงตั้งอยู่เหนือเสาหิน Hercules และหลายๆคนเชื่อกันว่าเสาหินของ Hercules คือยอดเขาที่อยู่บริเวณด้านข้างของทางช่องแคบ Gibraltar โดยยอดเสาทางตอนเหนือคือภูเขา Gibraltar ส่วนยอดเขาทางตอนใต้คือยอดเขาที่อยู่ใกล้กันที่แอฟริกาเหนือนั้นเอง จึงทำให้ทีมนักสำรวจที่นำโดย Dr. Richard Freund มองว่าตำแหน่งนี้คือตำแหน่งที่เป็นไปได้มากที่สุดว่าที่นี่จะมีเมืองที่หายสาบสูญอย่างแอตแลนติสอยู่นั่นเอง โดยเป้าหมายการค้นหาของทีมนักสำรวจ จะอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ Guadalquivr ในอุทยานแห่งชาติ Donana ทางสเปนตอนใต้ พอเขามาถึงทางอุทยานก็ได้แจ้งว่า บริเวณนี้แต่ก่อนเป็นทะเลสาบ แต่ตอนนี้มันก็แห้งและกลายเป็นดินโคลนดินเลนไปจนหมดแล้ว และนั่นก็เป็นโอกาสดีที่ทำให้ Dr. Richard Freund และทีมนักสำรวจของเขาได้มีโอกาสไปสำรวจบริเวณนั้นได้ง่ายมากขึ้นด้วย โดยการสำรวจครั้งนี้มีการอ้างอิงถึงนักโบราณคดีในอดีตถึง 2 คนที่ให้ข้อมูลไว้ว่าแอตแลนติสน่าจะจมอยู่ใต้ดินบริเวณนี้โดยทฤษฎีสมคบคิดนี้ มีการค้นคว้าภาพถ่ายจากดาวเทียม และได้ค้นพบว่าในภาพถ่ายจากดาวเทียม ค้นพบพื้นที่ประหลาด โดยบอกว่าพื้นที่นี้มีสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลางและมีลักษณะคล้ายบริเวณวงแหวนอยู่ 3 วงรอบๆบริเวณพื้นที่อุทยานด้วย และเมื่อเอาภาพถ่ายนี้ไปเทียบกับรายละเอียดที่ มีการบันทึกไว้ทำให้นักสำรวจยิ่งเชื่อเข้าไปอีกว่านครแอตแลนติสที่สาบสูญ ไปนั้นยังไงก็ต้องตั้งอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

 

บันทึกจากคัมภีร์ไบเบิล

ในคัมภีร์ไบเบิลก็ได้มีการบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับนครที่สูญหายไปเช่นกัน ก็คือนครTarshish ที่หายสาบสูญไป และตำแหน่งของนคร Tarshish ดันอยู่ตำแหน่งเดียวกับอุทยาน Donana ด้วย แต่เขาบอกว่านคร Tarshish ก็มีอีกชื่อหนึ่ง บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล ก็คือนคร Tartessos นั่นเอง โดยทีมนักสำรวจ เขาเชื่อว่าเมือง Tartessos และ Tarshish น่าจะมีอีกชื่อหนึ่งนั่นก็คือเมืองแอตแลนตีส แต่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เพราะข้อมูลหลายๆอย่างมันสอดคล้องกันมากว่าพื้นที่ตรงนี้ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของนครแอตแลนตีส ก่อนที่จะขยายอารยธรรมหรือขยายอาณาเขตไปในพื้นที่ต่างๆ แล้วก็มีซากมีโบราณสถานโบราณวัตถุให้เราได้เห็นกันในแต่ละที่นั่นเองครับ

 

สรุป 

แอตแลนติสตำนานนครที่หายสาบสูญ เป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันมาอย่างยาวนาน และก็มีบันทึกการค้นหาหรือแม้แต่การตั้ง ทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับนครแอตแลนตีสนี้ ซึ่งใครหลายคนเชื่อกันว่านครนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก และยังเชื่ออีกว่าชาวเมืองแอตแลนตีส เป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาสร้างอารยธรรมไว้บนโลกตั้งแต่อดีตอีกด้วย แต่ในปัจจุบันปริศนาเกี่ยวกับนครแอตแลนตีสนี้ก็ยังไม่สามารถไขข้องสงสัยได้ เพราะไม่เคยมีใครที่ได้พบนครที่หายสาบสูญนี้เลยสักคนเดียวตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันนั้นเอง

อ่านบทความจบแล้วอย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด