เปิดตำนาน เสียงปริศนาจากใต้ท้องทะเลลึก (The Bloop)

เปิดตำนาน เสียงปริศนาจากใต้ท้องทะเลลึก (The Bloop)

เปิดตำนาน เสียงปริศนาจากใต้ท้องทะเลลึก (The Bloop)

ถ้าพูดถึงพูดถึงสิ่งลี้ลับที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ หรืออะไรหลายอย่างบนโลกที่เรายังมีการค้นหาอยู่ เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึง พวกมนุษย์ต่างดาวสิ่งที่อยู่ในอวกาศ หรือไม่ก็สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดวงดาวอื่นสะเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งลี้ลับที่อยู่ในโลกยังมีอะไรที่น่าสนใจค่อนข้างที่จะเยอะมาก และในบทความนี้จะมาพูดถึงสิ่งมีชีวิตลึกลับใต้ท้องทะเลที่เคยโด่งดังมากเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว นั่นก็คือ The Bloop สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงิน และคาดว่าอาจจะใหญ่กว่าถึง 20 เท่าเลยก็ว่าได้

ติดตามเรื่องราวของตำนานอีกมากมายได้ที่ “คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน

การค้นพบ The Bloop

The Bloop เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มีการพบเห็นแบบตัวเป็นๆ หรือมีการถ่ายภาพไว้ได้เลยแต่ The Bloop ถูกค้นพบจากการใช้เครื่องตรวจหาคลื่นเสียงในท้องทะเล ซึ่งคลื่นเสียงที่ตรวจจับได้มันก็จะมีลักษณะที่เป็นโทนต่ำ และร้องอยู่ตลอดเวลาคล้ายกับเสียงของวาฬสีน้ำเงิน ข้อมูลตรงนี้ได้บันทึกไว้ว่าได้มีการค้นพบครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2540 โดยองค์กรการสมุทรและบรรยากาศของ USA หรือ National Oceanic And Atmospheric Administration โดยการบันทึกการตรวจจับคลื่นเสียงนี้ ได้บอกไว้ว่าได้ตรวจจับเจอในครั้งแรก ที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งถูกบันทึกไว้ได้โดยหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาใช้เครื่องตรวจคลื่นเสียงใต้ทะเล เพื่อที่จะค้นหาเรือดำน้ำของสหภาพโซเวียตในตอนนั้น แต่ในขณะที่พวกเขาได้ทำการใช้เครื่องนั้นอยู่ปรากฏว่าเขาได้พบคลื่นเสียงปริศนาเกิดขึ้น แต่คลื่นเสียงนั้นไม่ใช่เสียงที่มาจากเครื่องยนต์ของเรือดำน้ำ แต่มันเป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำมีเสียงคล้ายกับสิ่งมีชีวิตกำลังโหยหวนอยู่ และมีความคล้ายกับวาฬสีน้ำเงินมาก และที่สำคัญคือเสียงปริศนานี้ไม่ได้ยินแค่สั้นๆ แต่ได้ยินเสียงเป็นระยะเวลานานพอสมควร และดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนสัตว์ที่กำลังโหยหวนอยู่ตลอดเวลา และการที่ค้นพบเสียงปริศนาตรงนี้ก็ได้เกิดเป็นทฤษฎีขึ้นมาถึง 3 ทฤษฎีนั้นเอง

เปิดตำนาน เสียงปริศนาจากใต้ท้องทะเลลึก (The Bloop)

คลื่นเสียงที่ถูกสร้างโดยมนุษย์

จากทฤษฎีแรกได้คาดการณ์กันว่าเสียงของ The Bloop มันคือคลื่นเสียงที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในยุคเวลาตอนนั้น ซึ่งเป็นช่วงปลายสงครามโลกหรือสิ้นสุดสงครามโลกแล้ว แต่ก็ยังมีสงครามในสงครามน้อยตั้งอยู่ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นคลื่นเสียงรบกวน เพื่อก่อกวนหรือว่าหลอกล่อให้ศัตรูเข้าใจผิดก็เป็นได้ แต่คลื่นเสียงตรงนี้กระจายเสียงไปมากกว่า 5,000 กิโลเมตร ซึ่งในสมัยนั้นไม่น่าจะมีเทคโนโลยีที่สามารถกระจายคลื่นเสียได้ไกลขนาดนี้อยู่ ทฤษฎีนี้จึงยังหาคำตอบไม่ได้นั้นเอง

 

เสียงจากการเสียดสีของภูเขาน้ำแข็ง

ตามข้อมูลทฤษฎีนี้คาดว่า เสียงปริศนาของ The Bloop น่าจะเกิดจากการที่ภูเขาน้ำแข็งสองลูกเสียดสีกัน ซึ่งถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือคล้ายกับเวลามีรถ 2 คันเฉี่ยวชนกันหรือว่าเวลามาถูกกันใกล้ๆ มันจะมีเสียงดังหรือว่ามีเสียงที่เกิดจากการเสียดสีกันขึ้นมา ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ แม้แต่ในภูเขาน้ำแข็งก็สามารถเกิดขึ้นได้ จึงทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่า เมื่อภูเขาน้ำแข็งเกิดการเสียดสีกัน จึงทำให้เกิดคลื่นเสียงออกมาในระยะกว้างมากๆและกลายเป็นเสียงของ The Bloop แบบที่เราได้ยินกัน แต่นักวิทยาศาสตร์หลายๆคนมองว่าถ้าเกิดว่าภูเขาน้ำแข็งที่เสียดสีกัน และมีความกว้างของเสียงกว่า 5,000 กิโลเมตร แสดงว่าภูเขาน้ำแข็ง 2 ลูกนั้นต้องใหญ่มากๆ หรืออาจจะใหญ่ได้ถึงขนาดที่ว่าเป็นเมืองหนึ่งเมืองเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันค่อนข้างเป็นไปได้ยากมาก แต่ว่ามันก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้เหมือนกัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่านี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดของเสียปริศนา The Bloop ก็เป็นได้

 

สิ่งมีชีวิตลึกลับ

ทฤษฎีสุดท้ายนี้เป็นทฤษฎีที่คนไม่ให้ความเชื่อถือมากที่สุด แต่เป็นทฤษฎีที่คนให้ความสนใจมากที่สุด นั่นก็คือเสียงของ The Bloop  ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มันคือเสียงที่มาจากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่อาจจะใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินหลายเท่าเลย แต่นี่เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้นเพราะคลื่นเสียงที่มีขนาดกว่า 5,000 กิโลเมตร มันไม่ใช่ว่าสัตว์ตัวไหนจะสามารถปล่อยออกมา และปล่อยได้ไกลขนาดนี้ เพราะวาฬสีน้ำเงินที่คนส่วนใหญ่เคยดูคลิปวีดีโอสารคดีต่างๆ คาดว่าเสียงของวาฬสีน้ำเงินน่าจะส่งได้กว้างและไกลได้ไม่ถึงหลัก 1,000 กิโลเมตร แต่สำหรับ The Bloop ที่คาดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตมันสามารถปล่อยคลื่นเสียงไปไกลถึง 5,000 กิโลเมตรแสดงว่ามันต้องใหญ่กว่าสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่างวาฬสีน้ำเงินฉะนั้นแล้วมันเป็นไปได้ไหมว่า The Bloop เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เราอาจจะยังไม่ค้นพบเจอ หรืออาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตยุคโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ในโลกเราก็เป็นได้

สรุป

The Bloop เสียง ปริศนาใต้ท้องทะเลลึกเป็นคลื่อนเสียงที่ถูกค้นพบ ได้โดยเหตุบังเอิญ และเป็นคลื่นเสียงที่ประหลาดเพราะ มีเสียงที่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังร้องโหยหวน และมีขนาดของเสียงกว้างถึง 5,000 กิโลเมตร จึงทำให้การค้นพบนี้เกิดเป็นทฤษฎีมากมาย แต่ในปัจจุบันนี้เราก็ยังหาคำตอบกับคลื่นเสียงนี้ไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ แต่มีหลายคนเชื่อว่ามันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตในยุคดึกดำบรรพ์ที่ยังเหลือรอดมาก็อาจเป็นไปได้นั้นเอง

อ่านบทความจบแล้ว อย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด