เปิดตำนาน ปราสาทภูมิโปน ปราสาทขอมโบราณเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
เมืองสุรินทร์นอกจากจากจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องช้างแล้วนั้น ก็ยังมีปราสาทหินที่มีความเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย นั้นก็คือปราสาทภูมิโปน เป็นปราสาทที่มีศิลปะการสร้างที่สวยงาม อีกทั้งยังมีเรื่องราวของตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างยาวนานของคนในพื้นที่ จะเป็นเรื่องราวอะไรนั้น ตามไปหาคำตอบกันได้ในบทความนี้กันเลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไป
( ติดตามตำนานต่างๆอีกมากมายได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน )
ปราสาทภูมิโปน
ตั้งอยู่ที่บ้านภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ประกอบด้วยโบราณสถาน 4 หลัง ตั้งเรียงกันไปทางเหนือ-ใต้ และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ได้แก่ ปราสาทก่อด้วยอิฐ 3 หลังและศิลาแลง 1 หลัง ปราสาทอิฐหลังใหญ่สร้างแบบศิลปะขอมโบราณ มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด ปราสาทอิฐหลังเล็ก ที่ตั้งตรงกลาง และปราสาทที่มีฐานศิลาแลง อยู่ด้านทิศใต้ถูกสร้างขึ้นในสมัย ปราสาทภูมิโปนถือเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย โดยเชื่อว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 11 – 13และยังถือว่าเป็นแหล่งอารยธรรมหรือชุมชนโบราณ ที่ได้เริ่มมีการปกครองแบบเมือง โดยพบว่าบริเวณรอบปราสาทมีคูเมือง เขื่อนดิน และยังมีแหล่งน้ำที่เป็นระบบชลประทาน อีก 5 แห่ง นอกจากปราสาทที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่แล้ว ปราสาท ภูมิโปนยังเชื่อมโยงกับตำนานพื้นบ้านที่ถูกเรื่องเล่าขานในท้องถิ่นนั้นก็คือตำนานปราสาท ภูมิโปน “ เนียง ด็อฮฺ ธม ”
ตำนานปราสาทภูมิโปน
ตำนานเล่าว่า มีกษัตริย์ขอมองค์หนึ่งได้สร้างเมืองลับไว้กลางป่าใหญ่ชื่อว่าปราสาท ภูมิโปน เพื่อลี้ภัยจากสถานการณ์อันตรายต่างๆ กษัตริย์องค์นั้นมีราชธิดาที่ชื่อว่า เนียง ด็อฮฺ ธม หรือนางศรีจันทร์ ในเวลาต่อมาบ้านเมืองของ เนียง ด็อฮฺ ธม ได้เกิดความวุ่นวายเนื่องจากมีข้าศึกมาประชิดประตูเมือง กษัตริย์จึงให้ข้าราชบริวารพาพระราชธิดาไปหลบที่ปราสาท ภูมิโปน อยู่มาวันหนึ่งเจ้าเมืองที่อยู่ใกล้เคียงได้ส่งพรานป่าเจ็ดคนพร้อมเสบียงกรังและช้าง 1 เชือกให้ออกล่าจับสัตว์ป่าเพื่อที่พระองค์จะนำมาเลี้ยงในอุทยาน พรานป่ารอนแรมล่าสัตว์อยู่นานจนเดินทางมาพบปราสาท ภูมิโปน จึงบังเกิดได้ยินกิตติศัพท์ความงามของเนียง ด็อฮฺ ธม เข้า ทำให้พรานเกิดอยากจะพบหน้านางสักครั้ง จึงได้ลักลอบเข้าไปแอบดูเนียง ด็อฮฺ ธม ที่กำลังอาบน้ำอยู่ เมื่อได้เห็นถึงความงามของนางดังกิตติศัพท์ที่ร่ำลือ
จึงได้นำเรื่องนี้ไปรายงานเจ้าเมือง พระราชาที่ได้ฟังเยี่ยงนั้นเกิดยินดีปรีดารีบให้จัดเตรียมกองทัพเพื่อไปรับนางมาเป็นพระชายาคู่บุญบารมี ฝ่ายเนียง ด็อฮฺ ธม ก็เกิดลางสังหรณ์ กระสับกระส่ายว่าจะมีคนมาพบที่ซ่อนของนาง เมื่อบรรทมนางก็ฝันว่าได้ทำกระทงเสี่ยงทาย ในกระทงมีเส้นผมเจ็ดเส้นกลิ่นหอม พร้อมสาส์นที่มีใจความว่าหากผู้ใดเก็บกระทงของนางได้นางจะยอมเป็นคู่ครอง และในกระทงยังมีรูปของนางใส่ลงไปด้วย เมื่อตื่นขึ้นมานางจึงได้จัดการทำตามความฝันนำกระทงไปลอย ณ สระลำเจียกหน้าปราสาท กระทงได้ลอยตามน้ำไปถึงเมืองโฮลมาน ราชโอรสของเมืองนี้ก็ได้พบกระทงของนาง จึงได้เก็บขึ้นมา เมื่อได้เปิดผอบดูองค์ชายก็เกิดหลงรักเจ้าของกระทงนี้ทันที แม้เจ้าชายโอลมานจะมีรูปโฉมไม่งดงาม แต่มีฤทธานุภาพมากในเรื่องเวทย์มนต์คาถา อีกทั้งยังได้ชื่อว่ารักษาคำสัตย์เป็นที่ตั้ง พระองค์จึงไปสู่ขอนางตามประเพณีเพราะเป็นผู้เก็บผอบได้ แต่ เมื่อเนียง ด็อฮฺ ธม ได้เห็นรูปร่างขององค์ชายโฮลมานนางจึงได้แต่นิ่งอึ้งและร้องไห้
เจ้าชายที่ได้เห็นเช่นนั้น ก็ทรงเข้าพระทัยดีและด้วยความรักที่พระองค์มีต่อเนียง ด็อฮฺ ธม พระองค์จึงไม่บังคับที่จะเอาตัวนางมาเป็นชายา แต่กลับช่วยพระนางขุดสระสร้างกำแพงเมือง และสร้างกลองชัยเอาไว้เผื่อเมื่อใดที่พระนางเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือให้พระนางตีกลองชัยนี้ แล้วองค์ชายจะรีบมาช่วยในทันทีโดยห้ามตีด้วยเหตุไม่จำเป็นเป็นอันขาด ด้วยความงดของเนียง ด็อฮฺ ธม จึงทำให้หลายคนที่ได้พบเห็นตกหลุมรักนางไม่เว้นแม้กระทั่ง บุญจันทร์นายทหารคนสนิท ที่พระบิดาของพระนางไว้วางใจให้รับใช้ใกล้ชิดเนียง ด็อฮฺ ธม แต่พระนางก็ไม่ได้มีใจตอบกับบุญจันทร์ วันหนึ่งบุญจันทร์ได้เห็นกลองชัยที่เจ้าชายโฮลมานให้เนียง ด็อฮฺ ธม จึงไปขอร้องกับพระนางทุกเช้าเย็น จนพระนางโมโหจึงประชดด้วยคำพูดที่ว่าหากอยากตีก็ตีไป เพราะคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว บุญจันทร์คิดว่าพระนางมีใจให้องค์ชายโฮลมานก็ไปตีกลอง เมื่อองค์ชายโฮลมานได้ยิน จึงปรากฏตัวขึ้นทันทีเพราะนึกว่าเนียง ด็อฮฺ ธม มีเหตุร้าย แต่เมื่อรู้ความจริง องค์ชายโฮลมานโกรธและได้ตำหนิพระนาง ทำให้ข้อสัญญาที่ให้ไว้กับพระนางสิ้นสุดทันที องค์ชายจะไม่มาช่วยเหลือพระนางอีก
ฝ่ายพระราชาที่เคยส่งพรานป่าเจ็ดคน มาล่าสัตว์แล้วมาพบพระนางในตอนแรกนั้นก็ส่งทัพมาล้อมเมืองภูมิโปนไว้เพราะต้องการตัวพระนางมาเป็นชายา เนียง ด็อฮฺ ธม ที่ไม่ได้ชอบพระราชาเมืองนั้นจึงหนีเข้าไปหลบภัยในปราสาท เเละคิดที่จะยอมตายเสียดีกว่า เพราะไม่มีชายใดที่พระนางพึ่งพอใจเลยสักคน พระนางจึงพยายามหลบไปด้านที่มีการยิงปืนใหญ่ตั้งใจจะโดนกระสุนให้ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายและมีแผลเหนือราวนมด้านซ้ายเล็กน้อยเท่านั้น (ในเวลาต่อมาชาวบ้านดม-ภูมิโปนจะสังเกตเด็กผู้หญิงคนใดมีลักษณะแขนด้านซ้ายเหมือนเคยหัก และมีแผลเป็นเหนือราวนมด้านซ้าย จะสันนิษฐานว่าพระนางเนียง ด็อฮฺ ธม กลับชาติมาเกิด) เมื่อพระราชาตีเข้าเมืองได้ และพบว่าพระนางที่ตนหลงรักบาดเจ็บจึงรีบรักษานาง เมื่อพระนางเนียง ด็อฮฺ ธม หายจากอาการบาดเจ็บ พระราชาจึงเตรียมยกทัพกลับพร้อมพระนางเนียง ด็อฮฺ ธม จึงขออนุญาตพระราชาเป็นครั้งอาบน้ำที่สระลำเจียก และปลูกต้นลำเจียกไว้กอหนึ่งพร้อมกับอธิษฐานว่าหากพระนางยังไม่กลับมาที่นี่ขอให้ต้นลำเจียกต้นนี้อย่าได้ออกดอก หลังจากนั้นพระนางเนียง ด็อฮฺ ธม ก็ถูกนำสู่นครทางทิศตะวันตก ไปทางบ้านศรีจรูก พักทัพและฆ่าหมูกินที่นั่น (ซี จรูกแปลว่ากินหมู) ทัพหลังที่ตามไปพบกันบ้านทัพทัน (ซึ่งกลายเป็นชื่อบ้านในปัจจุบัน) และได้เดินทางต่อมายังบ้านลำดวน ได้มีการเลี้ยงฉลองรำไปล้มไป รำล้มในภาษาเขมรคือ เรือ็ม ดูล ซึ่งเป็นชื่อของ อำเภอลำดวนในปัจจุบัน
สรุป
เปิดตำนาน ปราสาท ภูมิโปน ปราสาทขอมโบราณเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เป็นตำนานที่กล่าวถึงราชธิดาของเจ้าเมืองขอมที่มีหน้าตางดงาม จนเป็นที่หมายปองของชายหลายคน แต่พระนางนั้นก็มิได้มีใจให้ชายผู้ใดเลย พระบิดาจึงได้สร้างปราสาท ภูมิโปนไว้ให้หลบซ่อนเมื่อนางมีภัย แต่สุดท้ายนางก็ได้ถูกพระราชาเมืองข้างเคียงนำทัพมาล้อมเมืองเพื่อชิงตัวนางไปเป็นชายา จึงได้เกิดเป็นชื่อหมู่บ้านในอำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์
เรื่องราวของตำนานสร้างความสุขให้ผู้อ่านได้ เช่นเดียวกับความสุขที่สร้างด้วยการเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด