เปิดตำนาน นางเงือกทอง แห่งแหลมสมิหลา
ถ้าพูดนางเงือก เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักเพราะตำนานเงือกมีอยู่ทั่วทุกที่บนโลก แต่ละตำนานก็จะแตกต่างกันออกไป รวมถึงความเชื่อของคนแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งเงือกหรือนางเงือกจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล และเชื่อว่าจะมีส่วนบนเป็นหญิงสาวสวยงามแต่มีส่วนล่างเป็นปลา ซึ่งทุกคนจะรู้จักเงือกในลักษณะนี้ และในบทความนี้จะมาเล่าถึงหนึ่งตำนานเกี่ยวกับนางเงือกของไทย ที่เล่าถึงชายคนหนึ่งที่พบรักนางเงือกจนกลายเป็นตำนานที่โด่งดังมากอย่างหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานอีกมากมาย ที่สามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน
ลักษณะของนางเงือก
เงือก เป็นอมนุษย์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อนิยายปรัมปราเกี่ยวกับน้ำ โดยเป็นจิตนาการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ โดยมากจะเล่าว่าเงือกเป็นสัตว์ครึ่งมนุษย์ มีส่วนครึ่งท่อนบนเป็นคน สวนครึ่งท่อนล่างเป็นปลา ในหลายประเทศทั่วโลก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเงือกมากมาย โดยเชื่อว่าแท้จริงแล้วสัตว์ที่มนุษย์เห็นเป็นเงือก คือ พะยูน นั่นเอง
ตำนานนางเงือกทอง
ตำนานเงือกทองถูกพูดถึง และเป็นเรื่องเล่าของแหลมสมิหลา จังหวัดสงขลา โดยตำนานได้เล่าว่า ในอดีตวันดีคืนดีมักจะมีนางเงือกขึ้นมานั่งหวีผมบนชายหาดแหลมสมิหลาในเวลากลางคืนด้วยหวีทองคำ จะกระทั่งวันหนึ่งมีชายชาวประมงเดินผ่านมา และได้พบเห็นกับนางเงือกที่กำลังนั่งหวีผมอยู่ที่โขดหินใกล้ชายหาด ในขณะนั้นชาวประมงที่ได้เห็นนางเงือกก็รู้สึกชอบนางเงือกตนนี้ เพราะมีใบหน้าที่สวยงามอย่างมาก จนชายชาวประมงคนนี้ค่อยๆแอบเดินเข้าไปหานางเงือกที่กำลังหวีผมอยู่ แต่แล้วนางเงือกกับหันมาเห็นพอดีด้วยความตกใจนางจึงได้รีบหนีลงทะเลไป โดยลืมหวีทองคำไว้ ชาวประมงที่เห็นก็ได้รีบไปดูและเก็บหวีทองคำนั้นไว้ และเฝ้าคอยนางเงือกที่หาดอยู่เสมอ แต่เวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนเป็นปีชายชาวประมงคนนั้นก็ยังคอยเฝ้ารอนางเงือกกลับมา แต่นางก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย จนกลายมาเป็นตำนานรักเงือกทองของแหลมสมิหลา จังหวัดสงขลา และยังมีการสร้างรูปปั้นนางเงือกทองขึ้นมาอีกด้วย
รูปปั้นนางเงือกทอง
ต่อมาเรื่องเล่าตำนานเงือกทองก็ถูกพูดถึงกันมาเรื่อยๆ จนท่านปลัดชาญได้เกิดไอเดียจากเรื่องเล่านี้ และได้ทำการสร้างรูปปั้นนางเงือกกำลังนั่งหวีผมเพื่อเป็นสัญลักษณ์ประจำหาด และเพื่อดึงดูดนักท้องเที่ยวให้มาเที่ยวชมชายหาดของจังหวัดสงขลานั่นเอง ซึ่งใช้งบประมาณในการสร้าง 60,000 บาท และได้ศิลปินนักปั่นชั้นครูของประเทศไทยมาปั่นรูปปั้นนาง เงือกทองให้ รูปปั้นได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2509 จากอดีตถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 50 ปี ที่ได้ตั้งอยู่บนแหล่มสมิหลา เป็นภาพที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้เห็นกันมาตลอด และด้วยทิวทัศน์ริมทะเลที่สวยงาม รวมถึงมี เกาะหนู เกาะแมว เป็นฉากหลัง ทำให้เป็นเหมือนแลนมาร์คสำคัญที่ใครได้มาเยือนชาดหาดแห่งนี้ต้องถ่ายรูปความประทับใจนี้ไว้อย่างแน่นอน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนในจังหวัดสงขลาเกิดความสะเทือนใจอย่างมากเกี่ยวกับรูปปั้น นาง เงือกทองนี้
คนร้ายลอบวางระเบิด
ในคืนวันที่ 26 ธันวาคม เวลาประมาณ 22.00 น. ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 จุดในเวลาไล่เลี่ยกัน บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรง บริเวณรูปปั้นนางเงือก และรูปปั้นหนูกับแมว ที่อยู่บริเวณใกล้กัน รูปปั้นทั้งสองแสดงถึงตำนานความเป็นมาคู่เมืองสงขลา โดยอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร โดยแรงระเบิดทำให้หางของ นางเงือก ทอง ขาดออกจากลำตัว ทำให้ผู้คนและชาวบ้านที่มาพบเห็นสะเทือนใจ และโกรธแค้นกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นอย่างมาก เพราะรูปปั้นเงือกทองเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ประจำจังหวัดสงขลาที่ทำให้ผู้คนหรือนักท้องเที่ยวรู้จักจังหวัดสงขลามากขึ้น ต่อมาภายหลังการเกิดเหตุระเบิดเพื่อเรียกขวัญกำลังใจของคนในพื้นที่ นายประเสริฐ สุขโต ผู้อำนวยการส่วนการโยธา เทศบาลสงขลา ได้นำเจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมนางเงือก ทองจนแล้วเสร็จ และให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมที่มีความสวยงามอีกครั้ง โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงในการซ่อมแซมรูปปั้นนี้นั่นเอง
สรุป
ตำนานเงือกทองเป็นตำนานที่เล่าเรื่องราวของชายประมง ที่พบเจอกับนางเงือกตนหนึ่งที่ขึ้นมาหวีผมอยู่ที่ริมหาด และเกิดความชอบในตัวนางเงือก จึงได้เข้าไปหาและด้วยความตกใจทะให้นางรีบหนีไปและลืมหวีทองคำไว้ จนชาวประมงเก็บได้และรอนางกลับมา แต่สุดท้ายนางเงือกก็ไม่กลับมาจนกลายเป็นตำนาน และถูกเล่าต่อมาจนมีการสร้างรูปปั้นนาง เงือกทอง เป็นสัญลักษณ์ประจำหาดแหลมสมิหลาอีกด้วย ซึ่งคนที่มากบางครั้งก็มาถ่ายรูป และยังมีผู้คนที่มาขอพรต่างๆกับรูปปั้นนางเงือนี้ด้วย ซึ่งก็มีหลายคนที่ได้สมดังใจที่ขอทำให้รูปปั้นนี้ค่อนข้างเป็นที่พูดถึงอย่างมากมายเลยที่เดียว
จนทำให้หลายคนอยากมาท่องเที่ยวและต้องมาชมความสวยงามให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้สักครั้งหนึ่งนั่นเอง
อ่านตำนานเงือกทองจบแล้ว อย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด