หลายคนคงเคยเห็นจิ้งจอก 9 หาง ทั้งในการ์ตูนอนิเมะของญี่ปุ่น ซีรีย์จีนและเกาหลี รวมไปถึงเกมต่างๆ ไม่ว่าจะในทางไหน จิ้งจอก 9 หาง ก็ล้วนเป็นตัวละครที่เด่นมีพลังแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีใบหน้าที่งดงาม วันนี้เราไปดูกันว่าจุดกำเนิดของตำนาน จิ้งจอก 9 หางนั้นมีความเป็นมายังไง ทำไมหลายประเทศในแถบเอเชียถึงได้มีการเล่าถึง ไปหาคำตอบกันได้ในบทความกันเลยค่ะ
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานอีกมากมาย ที่สามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน
ลักษณะของจิ้งจอก
สุนัขจิ้งจอก หรือ จิ้งจอก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
โดยทั่วไปสุนัขจิ้งจอกจะมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่าสนุขทั่วไป และมีลักษณะคล้ายกับสุนัขพันธุ์ไทย มีความแข็งแรง รวดเร็ว จมูกแหลมยาว ใบหูใหญ่ชี้ตั้ง ฟันกรามแข็งแรงและแหลมคม หางยาวเป็นพวง มีขนสีเทาแดงหรือน้ำตาลแดง หรืออาจจะมีสีที่เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม หมาจิ้งจอกสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมได้ เช่น ยอดเขา ป่าดงดิบ ทะเลทราย และในพื้นที่ที่มีหิมะ สุนัขจิ้งจอกยังมีตำนานที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนานว่าจิ้งจอกนั้นอยากเป็นมนุษย์ จึงได้หมั่นบำเพ็ญเพียร เชื่อว่าหากบำเพ็ญเพียรครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมา 1 หาง เมื่อใดที่ครบ 9 หาง จะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์หนุ่มหล่อ สาวสวยไว้ใช้หลอกล่อให้ผู้คนลุ่มหลง อีกทั้งยังมีพลังที่แกร่งกล้า และตำนานของจิ้งจอก 9 หางนั้น มีอยู่หลายประเทศ แต่เชื่อกันว่านั้นคือจิ้งจอก 9 หาง ตัวเดียวกัน
ตำนาน จิ้งจอก 9 หาง ของประเทศในเอเชีย
1. ตำนาน จิ้งจอก 9 หาง ในประเทศอินเดีย
มีความเชื่อกันว่า อินเดียคือประเทศแรกที่ถือกำเนิดปีศาจจิ้งจอก 9 หาง ที่ได้แปลงร่างเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยงามจนทำให้องค์ชายแห่งราชวงศ์อินเดียตกหลุมรัก องค์ชายจึงได้นำนางปีศาจจิ้งจอกเข้ามาเป็นสนม อีกทั้งยกมอบทรัพย์สิน แก้ว แหวน เงินทอง มากมายให้กับนาง หลังจากนั้นองค์ชายกลายเป็นชายที่มักมากในกาม จนไม่ทำงานบ้านเมือง อีกทั้งยังมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมเหมือนโดนเวทมนต์ครอบงำ พระราชาจึงสั่งให้นักบวชที่มีพลังแกร่งกล้าไปปราบ และแน่นอนว่านางปีศาจจิ้งจอกไม่สามารถสู้พลังของนักบวชได้ จึงได้กลายร่างกลับร่างเป็นจิ้งจอก 9 หาง และได้หลบหนีไปจากนั้นก็ไม่มีใครได้เห็นนางอีกเลย
2. ตำนาน จิ้งจอก 9 หางในประเทศจีน
ฮ่องสิน หรือพงศาวดารจีนได้กล่าวถึงปิศาจจิ้งจอกเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ซาง องค์ชายโจ้วหวาง หรือพระเจ้าอินโจว ได้ตามหานางสนมที่มีหน้าตาสวยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ จนมาสะดุดตากับ จิ้งจอก 9 หางที่ได้ฆ่าต้าจี่และสวมรอยแทน ต้าจี่ความงดงามราวกับเทพธิดา องค์ชายจึงได้แต่งตั้งให้นางเป็นพระสนมเอก องค์ชายลุ่มหลงต้าจี่จนไม่ทำงานว่าราชการต่างๆ ในวังยังมีการจัดงานฉลองทุกวัน และเอาภาษีของประชาชนมาสร้างหอคอยดูดาวให้กับนาง จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนอดอยากล้มตายไปทั่วแผ่นดิน เนื่องจากต้องเกณฑ์ประชาชนจำนวนมากมาสร้างหอคอย และหากมีใครคัดค้านต้าจี๋จะทูลให้องค์ชายสั่งประหารทุกคน จึงทำให้แดนสวรรค์ได้ส่ง เจียงจื่อหยา ผู้มีวิชาบนเขาคุณหลุนลงไปปราบเจ้าปิศาจร้ายตนนี้ แต่ต้าจี่ก็สามารถหลบหนีไปจากประเทศจีนได้ เหตุที่ราชวงศ์ซางเสื่อมลง ก็เป็นเพราะว่าพระเจ้าอินโจวได้ไปล่วงเกินเจ้าแม่หนี่วามารดาแห่งสวรรค์ ด้วยคำลามก เจ้าแม่จึงได้ส่งปีศาจจิ้งจอกต้าจี่ เพื่อมาสังหารพระเจ้าอินโจวและทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย
3. ตำนาน จิ้งจอก 9 หางในประเทศญี่ปุ่น
ทามาโมะ โนะ มาเอะ หรือปิศาจจิ้งจอก 9 หาง หลังจากที่ถูกขับไล่จากเทพของจีน ปีศาจจิ้งจอกก็ได้หลบหนีมายังประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่ปรากฏตำนานเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอก 9 หาง ปีศาจตนนี้ได้แปลงร่างเป็นสาวงามเหมือนที่เคยทำในประเทศอินเดียวและจีน รูปโฉมที่งดงาม กายมีกลิ่นราวกลีบดอกซากุระลอยรอบตัว จึงไปสะดุดตาของจักรพรรดิโทบะ จึงได้แต่งตั้งให้ทามาโมะ โนะ มาเอะเป็นสนมเอก ด้วยเวทมนต์นี้ทำให้จักรพรรดิโทบะ หลงนางจนไม่ทำงาน ไม่ว่าราชการกิจแผ่นดิน จนทำให้จักรพรรดิมีสุขภาพทรุดโทรมลงราวกับถูกสูบพลังวิญญาณ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เหล่านักพรตที่มีเวทมนต์แกร่งกล้าและมีชื่อเสียงในการปราบสิ่งชั่วร้ายจากหอองเมียวจิเข้ามาตรวจสอบจึงพบว่ามีพลังความชั่วร้ายอยู่ในวังหลวง และที่มาของพลังนั้นก็คือนางสนมทามาโมะ โนะ มาเอะ พอนางรู้ตัวจึงได้กลับเป็นร่างเดิม หลบหนีไปที่ราบสูงนาสึ นักพรตจึงได้นำเหล่าทหารตามไปจนเจอ จนเกิดการต่อสู้ขึ้น ในที่สุดนักพรตก็สามารถจัดการกับปีศาจจิ้งจอก 9 หางให้กลายเป็นหินที่ชื่อว่า หินเซสโชเซกิ
4. ตำนาน จิ้งจอก 9 หางในประเทศเกาหลี
กูมีโฮ หรือ จิ้งจอก 9 หาง เป็นปีศาจที่อาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับทั้ง 3 ประเทศที่กล่าวมา ในตำนานเกาหลี จิ้งจอก 9 หาง หรือ กูมิโฮ เป็นจิ้งจอกที่มีรูปโฉมงดงามไม่ว่าจะตอนเป็นจิ้งจอกหรือตอนแปลงร่างเป็นมนุษย์ และมีความปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์อย่างมาก แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องกินหัวใจของมนุษย์ให้ครบหนึ่งร้อยคน กูมิโฮจึงได้ทำได้ฆ่าผู้ชายไปหลายคน จนได้ครบทั้งหมด 99 คน แต่ผู้ชายคนที่หนึ่งร้อยกลับทำให้กูมีโฮเกิดความรักที่บริสุทธิ์ จนทำให้ผู้ชายคนนั้นจนรอดพ้นจากการตายได้ กูมิโฮได้เลือกความรักมากกว่าการเป็นมนุษย์ ถึงแม้ความรักนั้นจะไม่สมหวังก็ตาม คนเกาหลีจึงมีความเชื่อว่ากูมีโฮนั้น คือปีศาจที่มีความรักอันบริสุทธิ์
หินเซสโชเซกิ หินจิ้งจอก 9 หาง
คนญี่ปุ่นเชื่อว่า หินเซสโชเซกิ (殺生石) หรือที่แปลเป็นไทยว่า ศิลาสังหาร คือหินที่ผนึกปีศาจจิ้งจอก 9 หางเอาไว้ ตั้งอยู่บนเนินเขานาสุ จังหวัดโทชิกิ อยู่ใกล้ๆ กับศาลเจ้านะสุ – ยุเซ็น ในปัจจุบันสถานที่นี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของของประเทศญี่ปุ่น และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวว่าหินเซสโชเซกิ หรือ หินจิ้งจอก 9 หาง ได้เกิดการแตกออกเป็นสองเสี่ยง
สรุป
ตำนานของจิ้งจอก 9 หางนั้นมีมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดกำเนิดจากอินเดียจนมีจุดจบที่ประเทศญี่ปุ่น จากตำนานความเชื่อ นำไปสู่การเกิดแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น หากท่านใดที่ได้ไปเที่ยวแถบจังหวัดโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถแวะเที่ยวชมหินเซสโชเซกิ และดื่มด่ำกับตำนานจิ้งจอก 9 หางได้ด้วยเช่นกัน
อ่านบทความจบแล้วอย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด