เปิดตำนานถ้ำนาคา บึงกาฬ ผู้คนหลั่งไหลบูชา เศียรพญานาค

เปิดตำนานถ้ำนาคา บึงกาฬ ผู้คนหลั่งไหลบูชา เศียรพญานาค

 

เปิดตำนานถ้ำนาคา บึงกาฬ ผู้คนหลั่งไหลบูชา เศียรพญานาค

ถ้าพูดถึงถ้ำนาคาจังหวัดบึงกาฬเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา และยังเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพญานาคถูกสาปให้กลายเป็นหินอยู่ด้วยเพราะ ในสถานที่ตรงนี้จะมีหินล้อมรอบที่มีลักษณะคล้ายกับงูขนาดใหญ่อยู่ทำให้ผู้คนเชื่อว่า นี่คือพญานาคที่ถูกสาปและยังมีตำนานเกี่ยวกับเรื่องราวตรงนี้ที่จะมาเล่าให้ทุกคนได้ติดตามกันใน บทความนิอีกด้วยนั่นเอง

คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน

ถ้ำนาคา

ถ้ำนาคาเป็นถ้ำที่ค่อนข้าง จะมีลักษณะโดดเด่นที่แตกต่างไปจากถ้ำอื่นๆอยู่ โดยถ้ำนี้ตั้งอยู่ที่พื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกับวัดถ้ำชัยมงคล การที่จะขึ้นไปเที่ยวบนถ้ำนาคาจะต้องเดินขึ้นบันไดที่สูงชันที่ทางอุทยานได้จัดสร้างเอาไว้เท่านั้น ซึ่งเราจะต้องเดินขึ้นบันไดสูงไปกว่า 1,400 ขั้นเลย ซึ่งก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ดังนั้นใครที่คิดจะไปเที่ยวถ้ำนาคา จะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วย สาเหตุที่ถ้ำแห่งนี้ได้ชื่อว่าถ้ำนาคาหรือถ้ำพญานาคก็เนื่องมาจากผนังถ้ำแห่งนี้ มีลักษณะคล้ายกับลำตัวของพญานาค ซึ่งก็จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับพญานาค หรืองูขนาดใหญ่ที่นอนขดตัวอยู่ โดยที่จะมีส่วนสำคัญอยู่ครบไม่ว่าจะเป็นส่วนหัว ส่วนลำตัวและก็รวมไปถึงเกร็ด ซึ่งในที่นี้ก็จะหมายถึงเกร็ดของพญานาคตามจินตนาการ แล้วก็ความเชื่อของชาวบ้านในแถบนั้นด้วย ลักษณะของถ้ำที่โดดเด่นแบบนี้เอง จึงได้เกิดเป็นตำนานของถ้ำนาคาที่เชื่อมโยงไปถึงความเชื่อเก่าแก่ของชาวบ้านเกี่ยวกับพญานาคที่เล่าสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนานว่า ถ้ำนาคาที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือพญานาคหรือว่างูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหินนอนขดอยู่ตรงบริเวณถ้ำนาคาแห่งนี้นั่นเอง 

เปิดตำนานถ้ำนาคา บึงกาฬ ผู้คนหลั่งไหลบูชา เศียรพญานาค

คำสาปของปู่อือลือ

ความเชื่อตรงส่วนนี้ ได้เชื่อมโยงไปถึงตำนานของราชาอือลือ หรือว่าปู่อือลือนั่นเอง ซึ่งปู่อือลือเป็นเทพที่อาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่ท่านถูกสาปให้กลายเป็นพญานาคลงมาปกครองเมืองบาดาล ซึ่งเชื่อกันว่าคือบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬในปัจจุบันนี้ ซึ่งที่แห่งนี้เองเป็นที่ที่พญานาค และมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ก็อยู่กันไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องราว ที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น นั่นก็คือบริวารของปู่อือลือที่เป็นพญานาค เกิดไปมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดจารีตอย่างรุนแรงดังนั้นปู่อือลือจึงได้ทำการลงโทษบริวาร ของตนเองด้วยการสาปให้กลายเป็นหินเพื่อลงโทษซึ่งเชื่อกันว่าบริวารของปู่อือลือ ที่ถูกคำสาปนั้นยังคงนอนขดกายอยู่ตรงบริเวณภูลังกาอย่างนี้ แต่ว่าจะมีสภาพกลายเป็นหินเหมือนกับที่เราเห็นบริเวณถ้ำนาคาปัจจุบันนี้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ และตำนานตรงส่วนนี้เองก็มีการเล่าต่อกันมาอีกว่าหนทางของการพ้นคำสาป ของปู่อือลือนั้นบริเวณบึงโขงหลงแห่งนี้จะต้องกลายเป็นอาณาจักรใหม่ หรือเมืองใหม่ขึ้นมาอีกครั้งถึงจะพ้นคำสาป ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อกันว่าก่อนหน้านี้ จังหวัดบึงกาฬยังไม่ได้เป็น จังหวัดเหมือนปัจจุบันแต่พอได้สถาปนาขึ้นมาเป็นจังหวัดบึงกาฬ ก็อาจจะหมายความได้ว่าบริเวณบึงโขงหลงแห่งนี้ได้กลายเป็นอาณาจักรใหม่ หรือเมืองใหม่เกิดขึ้นจริงแล้วนั่นเอง จึงทำให้คำสาปของปู่อือลือเริ่มคลายลงนั่นเอง ซึ่งก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถ้ำนาคาแห่งนี้เริ่มปรากฏเป็นลักษณะของพญานาคที่ชัดเจนขึ้นนั่นเอง 

 

ข้อสันนิษฐานทางวิทยาศาสตร์

ข้อสันนิษฐานในทางวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าถ้ำนาคาแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาหินทรายที่มีชื่อว่าภูลังกา ซึ่งจัดอยู่ในหมวดของหินยุคครีเทเชียส หรือประมาณ 70 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นช่วงให้ท้ายของยุคไดโนเสาร์ ด้วยหินทรายบริเวณนี้ นอกจากจะมีความหนาค่อนข้างมาก แล้วเนื้อหินยังมีความเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็มีความพรุนสูงด้วยซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เกิดลวดลายต่างๆคล้ายเกล็ดพญานาคที่เราเห็นกันทุกวันนี้ซึ่งถ้ำนี้เกิดมาจากการหดแล้วก็ขยายตัวของชั้นผิวหน้าหิน ซึ่งกระบวนการนี้ ก็จะมีชื่อเรียกภาษาอังกฤษนะครับว่า Sun Crack ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรซ้ำไปซ้ำมา เป็นวัฏจักรที่สลับเปลี่ยนระหว่างความร้อนจากแสงแดดในช่วงกลางวัน แล้วก็ความเย็นในช่วงกลางคืนนั่นเอง ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานมากคาดว่าจะต้องใช้เวลานับแสนปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งส่วนถ้ำนาคาที่มีลักษณะคล้ายกับลำตัวของพญานาค เกิดมาจากการยกตัวของแผ่นดิน จากนั้นก็เกิดการกัดเซาะตามวัฏจักรขึ้น ในระหว่างยุคโลกเย็นหรือยุคน้ำแข็งกับยุคโลกร้อนในอดีต ซึ่งก็จะเกิดสลับกันไปสลับกันมาในวงรอบประมาณทุกๆ 100 ปี โดยที่จะมีน้ำเป็นตัวกลางในการกัดเซาะ โดยในยุคที่มีน้ำเยอะผิวน้ำก็จะทำการกัดเซาะผนังถ้ำในด้านบนทำให้เกิดร่องที่เว้าเข้าไปด้านใน ที่มีระดับน้ำน้อยลงผิวน้ำก็จะทำการกัดเซาะผนังถ้ำในส่วนของด้านล่างนั่นเอง ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเป็นวัฏจักรสลับกันไปสลับกันมาหลายแสนปี จนทำให้เกิดเป็นถ้ำนาคาที่มีลักษณะเป็นช่องแคบตัดกันเหมือนถ้ำเขาวงกตขนาดเล็ก ที่ไม่มีหลังคาซึ่งจากทั้งหมดเหล่านี้ก็ทำให้ผนังถ้ำแห่งนี้มีลักษณะโค้งเว้าสลับกันดูคล้ายกับเป็นลำตัวของพญานาค หรือว่างูยักษ์ตามจินตนาการของชาวบ้านในแถบนี้นั่นเอง

 

สรุป 

ถ้ำนาคาหรือถ้ำพญานาคเป็นสถานที่ที่ผู้คนให้ความสนใจมากในปัจจุบัน และถ้านี้ยังเป็นอุทยานที่มีการศึกษาทางธรณีวิทยาที่สำคัญอีกด้วย และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับ พญานาคมากาบไหว้บูชาเพื่อขอพรกันเป็นจำนวนมากเพราะเชื่อว่าสถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเหล่าผู้คนที่แวะเวียนเขามาขอโชคลาภก็มักจะได้สมดังใจปรารถนากันนั่นเอง จึงทำให้สถานที่นี้หรือถ้ำนาคาเป็นที่พูดถึงและโด่งดังมากในปัจจุบันเลยทีเดียว

ตำนาน เรื่องเล่า ต่างๆ สร้างความสุขให้ผู้อ่านได้ เช่นเดียวกับความสุขที่สร้างด้วยการเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด