เบื้องหลังแห่งตำนานทัชมาฮาล
ถ้าพูดถึงตำนานทัชมาฮาล เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงเรื่องของอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และอยู่ในประเทศอินเดียเพราะว่ามันคือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว และถ้าเกิดว่าใครได้พาคู่รักไปที่นั่นเขาว่ากันว่าจะสมหวังเรื่องความรัก ส่วนใหญ่เรามักจะเข้าใจกันประมาณนี้ แต่ถ้าเอาตามข้อมูลจริงๆคำว่ามันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักหรือเปล่า มันก็เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก แต่ที่มาอาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนกับที่เราคิด และในบทความนี้จะมาเล่าถึงเรื่องราวเบื่องหลังของอนุสรณ์แห่งความรักที่โด่งดังที่สุดในโลกแห่งนี้
มีตำนานอีกมากมายรอให้ท่านได้พิสูจน์ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน
ตำนานความรักแห่งทัชมาฮาล
เมื่อประมาณคริสตศักราชที่ 1,500 หนึ่งในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง จักรวรรดิโมกุล (Mughal Empire) กำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟูสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านทหารกำลังรบ หรือแม้แต่การค้าขายและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทุกอย่างใช้คำว่าเป็นเจ้ามหาอำนาจในยุคนั้น และมีพื้นที่จักรวรรดิใหญ่เทียบเท่ากับจีนในทุกวันนี้เลยก็ว่าได้ซึ่งในช่วงเวลานั้น ทางจักรพรรดิแห่งโมกุล ก็ได้มีลูกชาย 1 คน ลูกชายคนนั้น มีชื่อว่าเจ้าชายขุร์รัม และเจ้าชายขุร์รัมเมื่อได้พบกับลูกสาวของรัฐมนตรีคนหนึ่งที่มีชื่อว่า อรชุมันท์ พานุเพคุม ซึ้งในตำนานว่ากันว่านางคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวรรดิโมกุล และเป็นผู้หญิงที่มีความงามเทียบเท่ากับพระจันทร์เวลาสองแสงในตอนกลางคืนเลย ซึ่งความสวยงามตรงนี้ เลยทำให้เจ้าชายหลงรักหัวปักหัวปำตั้งแต่แรกเจอเลยถึงขนาดที่ว่าซื้อเพชรจำนวนกว่า 1,000 รูปี ให้เป็นของขวัญส่วนตัวเลยทีเดียว และทางเจ้าชายก็ได้ไปบอกกับพ่อตัวเองอีกว่าอยากจะได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นพระมเหสี และต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่อายุ 14
เหตุการณ์หลังจากการแต่งงาน
ตำนานได้บอกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ค่อนข้างชัดเจน ว่าทั้งคู่หลังจากที่ได้แต่งงานกันไปแล้วก็เป็นคู่รักที่รักกันมาก และอยู่ตัวติดกันตลอดเวลาไม่เคยห่างกันเลยก็ว่าได้แต่สำหรับบางคนก็ไม่ได้เชื่อแบบนั้น เพราะว่าบางคนได้ไปค้นพบหลักฐานบางอย่างที่บ่งบอกว่า บางทีการแต่งงานระหว่างอรชุมันท์กับเจ้าชายหนุ่ม อาจจะเกิดขึ้นเพราะเป็นเหตุบังคับทางการเมืองถ้าไม่ทำแบบนั้น อาจจะเกิดเหตุจลาจลหรืออาจจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างก็เป็นได้ เขาเลยจะต้องจัดงานแต่งงานนี้ขึ้นมา แต่ผลสุดท้ายก็คือทั้งคู่ก็รักกันจริงๆ และในเวลาต่อมาทางเจ้าชายก็ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากพ่อ และได้เป็นจักรพรรดิแห่งโมกุลรุ่นต่อมา และมีชื่อใหม่ว่าจักรพรรดิชาห์ จาฮาน ซึ่งทางพระมเหสีก็ต้องเปลี่ยนชื่อเช่นกัน และเขาได้เปลี่ยนเป็นเจ้าหญิง มุมตัซ มาฮาล แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทางเจ้าชายต้องออกไปปราบเหตุจลาจล และทางเจ้าหญิงก็ได้ตามเจ้าชายไปด้วย ซึ่งขณะนั้นเจ้าหญิงเองก็ได้ตั้งครรภ์อยู่ด้วย จนทำเกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าขึ้นมา
การตัดสินใจของเจ้าหญิง
ตามบันทึกบอกไว้ว่าขณะที่เจ้าชาย และทหารได้ปราบจลาจลสำเร็จ และหยุดการปฏิวัติได้ แต่ก็มีข่าวร้ายอีกอย่างหนึ่งคือทางเจ้าหญิงมุมตัซ มาฮาล ที่กำลังตั้งท้องอยู่เกิดอาการครรภ์เป็นพิษจนทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนหลายโรค และทางหมอที่มาดูแลเจ้าหญิงได้บอกกับเจ้าชายว่าไม่สามารถช่วยชีวิตของทั้งคู่ได้ แต่อาจจะเลือกที่จะช่วยชีวิตใครคนหนึ่งได้ ซึ่งทางเจ้าชายชายเขาก็เลือกไม่ได้ระหว่างลูกหรือพระมเหสีของตัวเอง แต่ในเวลานั้นเองทางเจ้าหญิงเขาเป็นคนเลือกเองเลยว่าเขาจะเลือกให้ลูกอยู่รอด และมีชีวิตต่อไปส่วนเขาจะยอมตายแทนลูก หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เลยทำให้เจ้าชายไม่เป็นอันกินไม่เป็นอันนอนวันๆเอาแต่สูบยาอยู่ในห้องของตัวเอง ไม่ออกมาข้างนอกไม่พบใครเลย และในตำนานเขายังบอกอีกว่าเคยอยู่ในห้องนั้นนานกว่า 10 วันโดยที่ไม่กินข้าวเลย ตามข้อมูลเขาก็ได้บอกว่าเจ้าชายใช้เวลาอยู่กับตัวเองพอสมควรเลยกว่าจะฟื้นฟูจิตใจตัวเอง และยอมรับความจริงได้ และในเวลาต่อมาหลังจากที่อาการของเจ้าชายดีขึ้น สิ่งแรกที่เขาสั่งให้ทหารของเขาทำนั่นก็คือ เขาต้องการที่จะทำอนุสรณ์สถานที่สวยที่สุดในโลก ให้กับพระมเหสีของเขาที่เขารักมากที่สุด ซึ่งอนุสรณ์สถานตรงนี้มันก็คือทัชมาฮาล
การสร้างทัชมาฮาล
การที่จะสร้างทัชมาฮาลขึ้นมา ตามแบบที่ได้มีการเขียนขึ้นมา และมีการปรึกษาสถาปนิกต่างๆ ต้องมีการเกณฑ์คนงานไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และใช้เวลาการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 20 ปีถึงจะสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาได้ และที่หนักที่สุดคือต้องใช้งบประมาณของแผ่นดินอย่างมหาศาลจนบางทีอาจจะทำให้จักรวรรดิล่มจมเลยก็เป็นได้ ตรงนี้เคยมีคนเตือนเจ้าชายแล้ว แต่เขาไม่สนเขาเพียงต้องการแค่จะสร้างอนุสรณ์สถานให้กับพระมเหสีของเขาเพียงแค่นั้นเอง และสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่ใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างมหาศาลเพื่อสร้างสถาปนิกชิ้นหนึ่งขึ้นมา จะต้องมีการเรียกเก็บภาษีประชาชนอย่างรุนแรงและมีการเกณฑ์แรงงานพร้อมทั้งใช้แรงงานอย่างเกินจำเป็น จนทำให้แรงงานบางคนถึงขนาดเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิตก็มีมาแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์ตรงนี้เลยทำให้เกิดการก่อปฏิวัติเกิดขึ้น จนทำให้ลูกชายของตนเองที่จะขึ้นครองราชสมบัติต่อต้องจบปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นแล้วจักรวรรดิอาจจะถึงจุดสิ้นสุดภายในวันนั้นเลยก็เป็นได้ ซึ่งบทสรุปของเรื่องนี้คือเจ้าชายถูกปฏิวัติโดยลูกชายตัวเอง สุดท้ายข้อมูลได้บันทึกไว้ว่าอดีตเจ้าชายได้จบชีวิตลงหลังจากจำคุกเป็นเวลาเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้นแต่หนึ่งอย่างที่รู้รับได้ตลอดเวลาจำคุก 8 ปีจนถึงวันสุดท้ายนั่นก็คือ ตั้งแต่วันแรกที่เจ้าชายเข้าไปในคุกจนวันสุดท้าย เขาได้ทำการจ้องมองไปที่ทัชมาฮาลผ่านหน้าต่างจากที่เขาอยู่ เพราะด้วยความรักและความคิดถึงพระมเหสีของเขา และในวันสุดท้ายของชีวิตเขาก็ยังทำเหมือนเดิมคือจ้องมองไปที่ทัชมาฮาลจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
สรุป
ตำนานความรักแห่งทัชมาฮาล อาจเป็นตำนานที่ดูสวยหรูในด้านความรักของคนสองคน แต่การกระทำในสิ่งต่างๆที่เจ้าชายได้กระทำนั้นส่งผลกระทบหลายอย่าง ให้แกผู้คนหลายคน และส่งผลกระทบให้กับประเทศหรือเมืองก็ว่าได้ จนทำให้เกิดการสูญเสียมากมายระหว่าการก่อสร้าง อีกทั้งยังมีการสั่งประหารนักออกแบบรวมถึงบุคคลที่ร่วมสร้างทัชมาฮาลขึ้นมา เพราะกลัวว่าบุคคลเหล่านั้นจะไปสร้างหรือออกแบบทัชมาฮาลขึ้นมาใหม่ จนทำให้ทั้งหมดนี้คือตำนานเกี่ยวกับความรักแห่งทัชมาฮาล และความโหดร้ายที่ซ่อนอยู่เบื่องหลังตำนานนี้นั่นเอง
อ่านบทความจบแล้วอย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด