เดอะ สไมลิ่งแมน (The Smiling Man) เรื่องเล่าสยองขวัญของชายหน้ายิ้ม

เดอะ สไมลิ่งแมน

ถ้าพูดถึงปริศนาหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงกับคนในสหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลากลางคืนเหตุการณ์นี้ นั่นคือเหตุการณ์ที่ได้มีคนพบเจอกับชายปริศนาคนหนึ่งที่ชอบโผล่มาในเวลากลางดึกแล้วก็มีท่าทางลักษณะที่ค่อนข้างประหลาดพอสมควร โดยชายคนนี้จะมีลักษณะเหมือนคนที่กำลังเต้นตามจังหวะในสิ่งที่เขาคิดอยู่ และชายปริศนาคนนี้ก็จะเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ๆ และจู่ๆก็หายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะโผล่มาและทำร้ายร่างกายหรือจู่โจมคนที่เขาเห็นจนทำให้คนเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บ และทำให้คนเหล่านั้นได้เอาเรื่องนี้มาแชร์แล้วบอกต่อกันนั่นเอง ซึ่งเรื่องที่ชวนน่าสยองขวัญนั่นก็คือ The Smiling Man นั่นเอง

ยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายที่รอให้คุณด้พิสูจน์ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน

ลักษณะของ The Smiling Man

ตามข้อมูลได้บอกไว้ว่าเป็นชายปริศนาคนหนึ่ง ที่จะชอบโผล่มาให้กับคนที่กำลังเดินทางในตอนกลางคืนด้วยคนเดียวเห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งชายที่ชื่อว่า The Smiling Man หลังจากที่ปรากฏตัวให้เห็นแล้ว เขาจะทำการเต้นโชว์และท่าเต้นเขาจะมีลักษณะที่ผิดแปลกรู้สึกว่าร่างกายของเขา เหมือนกับไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันและจุดสำคัญที่เป็นลักษณะเด่นที่พูดถึงเขาเลยนั่นก็คือรูปร่างใบหน้าของเขา เป็นชายที่ฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา เบ้าตาลึกโบ๋ และเงยหน้าหันมองฟ้าอยู่ตลอดเวลาด้วย ซึ่งรอยยิ้มที่พูดถึงตรงนี้มีลักษณะที่ฉีกถึงหูเลยหรือเป็นเหมือนโจ๊กเกอร์เลยก็ว่าได้ และหลายคนอ้างว่าเขาเคยหนักสุดถึงขั้นมีคนที่พบเจอกับ The Smiling Man สลบไปแล้วตื่นมาอีกทีก็พบว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย จนพกช้ำดำเขียวถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลมาแล้วก็มีเช่นกัน

 

ต้นฉบับ The Smiling Man

เรื่องของ The Smiling Man มีคนพูดถึงและมีการแชร์อยู่เยอะแยะมากมาย ซึ่งตามต้นฉบับมันเป็นเพียง เรื่องสยองขวัญที่มีคนแต่งขึ้นมาเท่านั้น แต่ตรงนี้มีจุดที่ผิดสังเกตของต้นฉบับก็คือ ในเรื่องเล่าตรงนี้เขาบอกว่าเป็นเรื่องสยองขวัญที่แต่งมาจากเรื่องจริง และเขาไม่สามารถตอบได้ว่าสิ่งที่เราเจอมันคืออะไรกันแน่ ซึ่งตรงนี้ก็มีข้อมูลหรือว่าต้นฉบับ ที่เขาเจอคนแรกมาเล่าต่อเป็นเรื่องราวต่อไปนี้ 

 

เดอะ สไมลิ่งแมน - ล็อตโต้สด59
 

 

การพบเจอ The Smiling Man

เมื่อ 5 ปีก่อนคนที่เขียนโพสต์ได้เล่าว่า เขาอยู่ในซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ด้วยความที่ว่าเขาเป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตในตอนกลางคืน เลยทำให้เขามีเวลาที่ไม่ค่อยตรงกับคนอื่นเวลาที่เขาเรียนหรือเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรมกับคนอื่น เขาก็จะไม่ค่อยเข้ามาร่วมหรือว่าไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นเท่าไหร่ บางทีเขาไปเรียนไม่ถึง 10 นาทีเขาก็นอนต่อใช้คำว่า เขาเป็นมนุษย์กลางคืนเลยก็ว่าได้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาใหญ่หนึ่งอย่างขึ้นมานั่นก็คือ เขาไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และไม่มีเพื่อนเลยก็ว่าได้ และเขาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในช่วงเวลากลางค่ำกลางคืนอยู่ตลอดเวลา บางทีเขาก็ออกมาเดินเล่นตอนกลางคืนคนเดียว บ้างไปขับรถคนเดียว และได้มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่เขาได้ออกมาเดินเล่นในตอนกลางคืน และเขากำลังจะกลับเข้าไปที่ห้องพักของเขา จู่ๆเขาก็ได้เห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนมองเขาอยู่ แต่ลักษณะการยืนมองของชายคนนี้มีลักษณะที่แปลกมาก ผู้ชายคนที่เขาพูดถึงตรงนี้ใส่สูทค่อนข้างเก่า และตัวผอมสูงเกือบ 2 เมตรเลย ซึ่งชายคนนี้กำลังก้มหน้าและพยายามมองเขาอยู่ เมื่อเขาเห็นชายคนที่ยืนมองเขา ก็เริ่มรู้สึกกลัวและเขาก็เลยทำการหันหลังแล้วเดินย้อนกลับไปเพื่อที่เขาจะไปข้ามทางม้าลายและไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อที่จะเดินหนี ขณะที่เขาหันหลังไปและเดินเพียงไม่กี่ก้าวนั้น เขามีความรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรกำลังตามเขาอยู่ เขาก็ได้หันไปมองที่ชายคนเมื่อกี้ ปรากฏว่าชายคนนั้นได้ขยับมาระดับหนึ่ง และเข้ามาใกล้เขาด้วยแต่พอหลังจากที่เขามองไป ชายคนนี้ก็หยุดนิ่งและไม่ขยับตัวแต่อย่างใด แต่ท่าทางที่หยุดนิ่งนั้นแปลกมากเพราะท่าทางที่ชายคนนั้นหยุดนิ่งเป็นลักษณะที่ เหมือนเต้นแล้วก็ค้างท่าไว้แบบนั้น ซึ่งเขาก็เริ่มกลัวมากขึ้นเลยตัดสินใจค่อยๆเดินถอยหลัง แล้วมองชายปริศนาคนนี้แบบไม่กระพริบตาเลย และสิ่งที่เขาเห็นนั่นก็คือชายคนนี้มีลักษณะ แปลกๆแล้วรู้สึกว่าร่างกายของเขาเหมือนกับไม่มีกระดูก เพราะแขนกับขาไปคนละทิศคนละทาง และลักษณะที่เขาเห็นนั้นคือชายคนนี้กำลังแหงนหน้ามองฟ้า และมีรอยฉีกยิ้มถึงหู และเต้น เข้ามาหาเขาเรื่อยๆ พอเขาหยุดเดินชายคนนี้ก็หยุดตามเช่นกัน เขากลัวมาก และเริ่มไม่มีสติแล้ว จึงตัดสินใจรีบวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย และเมื่อหันกลับมามองอีกครั้ง ปรากฏว่าชายปริศนาคนที่เขาเห็นนั้นได้หายไปแล้ว ซึ่งต่อมาก็มีความรู้สึกเย็นวาบที่หลัง เขาก็เลยทำการหันไปมอง และสิ่งที่เขาเห็นคือชายปริศนาคนนั้นได้ไปยืนอยู่ข้างหลังเขาห่างเพียงไม่ถึง 10 ก้าวเพียงเท่านั้น เขาก็เริ่มไม่มีสติ จึงตัดสินใจเดินเร็วแล้วก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ขณะที่เขาเดินหนีชายปริศนาคนนี้ และทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงย่ำเท้าอย่างรุนแรงเหมือนกับว่ามีอะไรวิ่งตามเขาอยู่ เขาหันหลังก็ไปอีกทีชายปริศนาคนนี้ได้วิ่งตามเขา ด้วยลักษณะที่แขนกับขาไปคนละทิศคนละทางกำลังวิ่งตามเขา ซึ่งต่อมาเขาได้ไปเจอกับป้ายรถเมล์ และเขาก็ได้ไปอยู่ตรงจุดที่มีแสงสว่าง และหันกลับมามองปรากฏว่าชายคนนี้ได้หายไปแล้ว เขาคิดว่าเขาน่าจะรอดแล้ว แต่เวลาผ่านไปเพียงไปไม่นานเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบอีกรอบหนึ่ง เขาเลยได้ตัดสินใจหันไปมองข้างหลัง และสิ่งที่เขาเห็นก็คือชายปริศนาคนเดิมกำลังมองเขม่น เขาด้วยรอยฉีกยิ้มสยองขวัญ และตาที่ลึกโบ๋อยู่ในระยะประชิด และทันใดนั้นเขาก็เป็นลมสลบไปเลย ต่อมาเขาได้ตื่นมาตอนเช้าปรากฏว่าสิ่งที่เขาพบนั้นก็คือเขาได้นอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ในลักษณะที่เสื้อผ้าฉีกขาด และเขาก็มีรอยพกช้ำดำเขียวเต็มไปหมดเลย ต่อมาเขาได้ไปแจ้งตำรวจแล้วก็บอกตำรวจว่าเขาโดนจู่โจมจากชายปริศนาคนหนึ่ง

 

กล้องวงจรปิด

ตำรวจได้ข้อมูลของกล้องวงจรปิดมาปรากฏว่าสิ่งที่ค้นพบนั้นก็คือ กล้องวงจรปิดนั้นไม่ได้เสีย และก็มีการบันทึกภาพมาตั้งแต่ช่วงระยะเวลาตอนเย็น จนไปถึงช่วงระยะเวลาตอนเช้า แบตเตอรี่ไม่หมดไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย แต่ในภาพให้เขาเห็นนั้นหลังจากที่ชายคนนี้ได้วิ่งมาถึงที่ป้ายรถเมล์ และหลังจากที่เขาได้นั่งไปไม่นานจู่ๆช่วงเวลาของกล้องก็ได้หายไปประมาณ 10 นาที จากนั้นก็พบว่าชายคนนี้ได้นอนแน่นิ่งอยู่ในป้ายรถเมล์นั้นแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ตรงนี้ทำให้เกิดความแปลกใจ และยังหาคำตอบไม่ได้จนถึงปัจจุบันนี้เลยนั้นเอง

 

สรุป 

The Smiling Man เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญที่ถูกอ้างว่าได้แต่งมาจากเรื่องจริง ของชายคนหนึ่งที่ได้ พบเจอกับชายปริศนาที่มีลักษณะแปลกประหลาดที่มีรอยยิ้มที่หน้ากลัวฉีกไปจนถึงปาก และมีดวงตาที่ลึกโบ๋จะคอยเดินตาม ผู้คนที่เดินทางไปไหนมาไหนในเวลากลางคืนเพียงคนเดียว ซึ่งเรื่องราวนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าชายปริศนาคนนี้ที่หลายคนได้พบเห็น เป็นมนุษย์หรือสิ่งประหลาดแบบไหนกันแน่ ต่อมาชายคนนี้ก็ได้ถูกตั้งชื่อว่า The Smiling Man และเป็นเรื่องเล่ามาถึงทุกวันนี้นั่นเอง

อ่านบทความจบแล้วอย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด