หน้ากากปีศาจญี่ปุ่น คาบูกิ คืออะไร
เชื่อว่าหลายท่านคงจะเคยเห็น หน้ากากลักษณะเป็นหน้าปีศาจยักษ์มีเขาสองเขา ซึ่งเจ้าหน้ากากคาบูกิ ถูกทำขึ้นมาเพราะอะไร มีประวัติความเป็นมาอะไรบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้เลยครับ
ท่านสามารถติดตามเรื่องราวจองปีศาจ และเรื่องเล่า ตำนานความเชื่อ อีกมากมายได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความ ปังให้กับทุกๆคน
คาบูกิ คืออะไร
คาบูกิ คือ ศิลปะการแสดงของญี่ปุ่นสมัยโบราณ มีประวัติยาวนานมากกว่า 400 ปีตั้งแต่สมัยเอโดะ และได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ละครคาบูกิ จะประกอบไปด้วย ดนตรี การเต้นรำ และการแสดง ผู้แสดงต้องเป็นชายล้วน แต่งหน้าฉูดฉาด แต่งกายอลังการ แสดงอย่างคล่องแคล่วดูสนุกสนาน เรื่องราวที่นำมาเล่นคาบูกิจะมีหลากหลาย เช่น เล่นเรื่องย้อนยุค ซามูไร วีรบุรุษ ความรัก และโศกนาฏกรรม ซึ่งมักจะนำมาดัดแปลงจากวรรณกรรมชื่อดังต่างๆ นั่นเอง
ต้นกำเนิดของคาบูกิ
ต้นกำเนิดของคาบูกิมาจากชื่อของหญิงนามว่า โอคุนิ เกอิชา ผู้แต่งกายด้วยชุดหรูหราอลังการ ในบางครั้งก็แต่งเป็นซามูไรเลียน แบบผู้ชายออกแสดงด้วยท่าทางการร่ายรำที่ดูแปลกตา ซึ่งในสมัยนั้นเรียกการแสดงของโอคุนิด้วยภาษาญี่ปุ่นว่า คาบุอิตะเอ็นชุสึ หรือการแสดงแปลกใหม่น่าแปลกตา จึงกลายมาเป็นที่มาของคำว่า คาบูกิ นั่นเอง
ตัวอักษรคันจิของคำว่าคาบูกิเขียนว่า 歌舞伎 เป็นอาเตจิ ซึ่งหากนำเอาอักษรคันจิอื่นที่เสียงเหมือนกันมาประสมเป็นคำใหม่หรือเปลี่ยนเสียงอ่านใหม่ 歌 จะแปลว่า เพลง ดนตรี 舞 จะแปลว่า ร่ายรำ 伎 จะแปลว่า ฝีมือ ความสามารถ ซึ่งจะสื่อถึงการแสดงละครคาบูกิ ที่ต้องใช้ความสามารถทั้งในด้านการร้อง การเล่นดนตรี และการร่ายรำได้อย่างครบถ้วนนั่นเอง ซึ่งการแสดงร่ายรำนี้ได้รับความนิยมอยู่แพร่หลายมากขึ้น จนได้พัฒนากลายเป็นศิลปะการแสดงละครขึ้นมา แต่เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งศีลธรรมในสังคมเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่ามีการค้าประเวณีในกลุ่มของนักแสดงคาบูกิหญิง จึงได้มีการห้ามไม่ให้ผู้หญิงแสดงคาบูกิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และปัจจุบันมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่สามารถขึ้นบนเวทีแสดงคาบูกิได้นั่นเอง
เอกลักษณ์ของคาบูกิ
การแสดงคาบูกิ จะไม่เน้นความเป็นธรรมชาติหรือความสมจริง แต่จะเน้นความอลังการ โดยทุกอย่างในการแสดงจะดูเกินจริงทั้งหมด เช่น สีหน้า วิกผมที่ฟูฟ่อง เสื้อผ้าสีสันเด่นชัดจัดจ้าน ท่าโพสหรือท่าสะบัดวิกผม การมองด้วยสายตาดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ของคาบูกิ ถ้าพูดถึงคาบูกิ เอกลักษณ์อีกอย่างที่จะลืมไม่ได้ นั้นก็คือลวดลายบนใบหน้านักแสดงที่เรียกว่า คุมาโดริ เพราะว่าเพียงแค่เห็นคุมาโดริ ก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่านักแสดงคนดังกล่าวเป็นฝ่ายดี จะวาดลวดลายสีแดงบนหน้า หรือฝ่ายร้าย-ปีศาจ จะวาดลวดลายสีน้ำเงินบนหน้านั่นเอง
ห้ามผู้หญิงแสดงคาบูกิ
มีการห้ามผู้หญิงแสดงคาบูกิ บทบาทผู้หญิงในละครจึงต้องยกให้นักแสดงชายเล่นแทน และจะเรียกนักแสดงชายที่แสดงบทผู้หญิงว่า อนนะกาตะ หนึ่งในไฮไลท์ของ อนนะกาตะ ก็คือ สีหน้า และท่วงท่าอันอ่อนช้อยของเหล่าบรรดานักแสดงชาย ที่จะดูเหมือนผู้หญิงมากจนคิดว่าเป็นผู้หญิง และลูกเล่นต่างบนเวที ที่ใช้ในการแสดงคาบูกินั้น จะมีการปรับเปลี่ยน และพัฒนาอยู่ตลอด ตัวอย่างเช่น ฮานะมิจิ ทางเดินยาวจากเวทีแทรกไปตรงกลาง ที่อยู่ระหว่างที่นั่งของผู้ชม หรือมาวาริบุไต เวทีจะหมุนเพื่อเปลี่ยนฉากก็ว่ากันว่า มีต้นกำเนิดมาจากละครคาบูกินั่นเอง เสียงเอฟเฟค และเสียงเพลงบรรเลงต่างๆ ที่ได้บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นกันสดๆ จากจุดที่คนดูสามารถมองเห็นได้ ก็จะช่วยทำให้การแสดงคาบูกินั้น จะดูสนุกสนานเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นไปอีก
การแต่งหน้าและการแต่งตัวในการแสดงคาบูกิ
คาบูกินั้นจะเน้นความฉูดฉาด และอลังการ มีเอกลักษณ์ที่การแต่งหน้าของนักแสดงที่เรียกว่า คุมาโดริ โดยจะทาหน้าให้เป็นสีขาว และวาดลวดลายลงไป ซึ่งแบ่งสีออกเป็น สีแดงคือฝ่ายดี ส่วนสีฟ้าคือฝ่ายร้าย และสีน้ำตาลคือตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ นอกจากนี้ยังใส่วิกผม และสวมชุดที่ดูหรูหราสวยงามในการแสดงอีกด้วย
ทำไมถึงกลายเป็นหน้ากากปีศาจ
หน้ากากปีศาจที่เราเห็นบ่อยๆ และเรียกกันติดปากว่า ปีศาจคาบูกินั้น แท้ที่จริงแล้วมันคือ ฮันเนีย ซึ่งเป็นชื่อของหน้ากากที่ใช้ในการแสดงละครโนะ (Noh) ของญี่ปุ่น จะแสดงถึงปีศาจผู้หญิงขี้อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้น ฮันเนียนั้น จะมีลักษณะ มีเขาแหลมคมสองข้าง มีตาเป็นโลหะ มีปากฉีกยิ้มจนถึงหู และยังสามารถแบ่งความชั่วร้ายไว้อยู่ 3 ระดับ ตามสีที่ปรากฏอยู่บนหน้ากาก ได้แก่ สีขาว แทนหญิงชนชั้นสูงที่มีความอาฆาต สีแดง แทนความอาฆาตชนชั้นกลางหรือคนทั่วๆไป ส่วนสีแดงเข้มไปจนถึงม่วง จะแทนมนุษย์ที่มีความอาฆาตจนกลายเป็นปีศาจ ด้วยลักษณะที่ว่ามานี้คนส่วนใหญ่ จึงได้ชื่นชอบในความสวยงาม และดุดัน รวบไปถึงในปัจจุบันหลายคนมักจะนิยมนำเอา ฮันเนีย หรือ ปีศาจคาบูกิ มาเป็นรอยสัก เพราะเชื่อกันว่า หากสักแล้ว จะหมายถึง การนำมาซึ่งความโชคดี และคุ้มครองจากภัยอันตรายต่างๆ นั่นเอง
สรุป
หน้ากากปีศาจญี่ปุ่น แท้ที่จริงแล้วมันคือ ฮันเนีย ซึ่งเป็นชื่อของหน้ากากที่ใช้ในการแสดงละครโนะ (Noh) ของญี่ปุ่น จะแสดงถึงปีศาจผู้หญิงขี้อิจฉา ริษยา อาฆาตแค้น ส่วน คาบูกิ คือการแสดงที่มีการแต่งตัว และแต่งหน้าให้ดูอลังการเพื่อขึ้นแสดง จึงได้เป็นที่มาของหน้ากากคาบูกิ ซึ่งในปัจจุบันผู้ที่แสดงจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ได้ห้ามผู้หญิงแสดงเพราะสมัยก่อนมีเรื่องค้าประเวณีของนักแสดงหญิงนั่นเอง
อาจบทความจบแล้ว อย่าลืมเสี่นวโชคกัย Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด