สถานีรถไฟ คิซารากิ สถานีสุดหลอนวิญญาณ

 

สถานีรถไฟ คิซารากิ สถานีสุดหลอนวิญญาณ

สถานีรถไฟ คิซารากิ สถานีสุดหลอนวิญญาณ

ถ้าพูดถึงเรื่องของตำนานรถไฟที่หายไปในช่วงข้ามคืน หรือมีกาลข้ามเวลาไปที่ที่ไม่รู้จักบางครั้งมีการเล่าว่า ขณะที่ไปนั่งรถไฟอยู่ดีกับไปโผล่ในสถานที่ที่ไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเคย และเรื่องราวตรงนี้ก็มีการเล่ากันอย่างมากมายบนโลก และในบทความนี้จะมาเล่าถึงเรื่องของสถานีแห่งหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นสถานีรถไฟวิญญาณ หรือสถานีรถไฟคิซารากินั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่นและทุกพูดถึงกันอย่างมากในปัจจุบัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในบทความนี้กันเลย

“คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน

เรื่องเล่าจากเว็บบอร์ด

เริ่มเรื่องได้มีกลุ่มคนตั้งเว็บบอร์ดขึ้นมาเพื่อจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต และหลังจากที่มีการโพสต์ลงในเว็บบอร์ดตรงนี้ ก็มีหลายๆคนมาแชร์เรื่องเราเยอะแยะมากมาย และพอมาถึงคอมเม้นที่ 98 ได้มีอยู่คนหนึ่งเขาได้เข้ามาตอบในกระทู้นี้ว่าเขาต้องการที่จะเล่าเรื่องหนึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาอาจจะคิดไปเองก็ได้เขาจะเล่าดีหรือไม่ และคนที่ตอบก็ขอให้เขาเล่าเพราะอยากฟัง ซึ่งตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ และคอมเม้นที่ 98 ขอสมมติชื่อว่าเป็นคุณเอ เพราะว่าตอนแรกเขายังไม่บอกชื่อและยังไม่บอกเพศคือยังไม่มีข้อมูลอะไรเลยโดยข้อมูลตรงนี้ เขาได้บอกไว้เขากำลังเจอสถานการณ์ประหลาดอยู่เขาต้องการที่จะขอความช่วยเหลือ และขอคำแนะนำจากคนที่อยู่ในเว็บบอร์ดนี้ เขาได้เล่าว่าได้นั่งรถไฟขาประจำกลับไปที่บ้านเป็นประจำ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นเหมือนทุกครั้งก็คือเขาได้ขึ้นรถไฟขาประจำและต้องการที่จะกลับบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันแตกต่างกว่าครั้งอื่นตรงที่ว่าปกติรถไฟที่เขานั่งจะจอดชานชลาละ 3-5 นาทีอยู่ตลอดเวลาแต่ครั้งนี้มันวิ่งมาไม่หยุดไม่จอดหรือไม่พักแต่อย่างใดเลย และที่สำคัญกว่านั้นคือโบกี้นี้ที่เขานั่งมีผู้โดยสารเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นและ 5 คน หลับหมดเลยเหมือนทุกคนไม่มีวิญญาณอยู่ในร่าง ตรงนี้คุณเอเขาก็ได้โพสต์ลงไปในเว็บบอร์ด และสมาชิกเว็บบอร์ดเขาก็เลยบอกไปว่า ทำไมไม่ลองเดินเข้าไปที่โบกี้หน้าสุดเพื่อที่จะไปหาคนขับรถไฟ และนายท่าจะได้รู้ว่าเรานั่งมาถูกหรือเปล่า แล้วถ้าเกิดสมมุติเรานั่งผิดเราจะนั่งไปที่ไหน ซึ่งหลังจากที่ได้รับคำแนะนำคุณเอก็ได้ตัดสินใจลุกออกจากที่นั่งที่เขาอยู่ และเดินข้ามไปประมาณ 1-2 โบกี้ที่ และพอไปถึงโบกี้หน้าปรากฏว่าสิ่งที่เขาเห็นคือประตูกระจกที่ติดอยู่ และมีม่านปิดมิดชิดไม่สามารถมองเข้าไปได้เลย คุณเอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปเคาะประตูและถามว่าสถานีต่อไปจะไปที่ไหนกันแน่ ปรากฏว่าไม่มีใครตอบกลับมาเลย และพอคุณเอกำลังจะเปิดประตูเข้าไปปรากฏว่าประตูนั้นก็ล็อคทันที คุณเอสงสัยมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยตัดสินใจเดินกับที่โบกี้ตัวเอง และไปนั่งที่เดิมที่ตัวเองมาตอนแรกซึ่งตรงนี้ เขาก็ได้บรรยายสิ่งที่เขาเจอลงในเว็บบอร์ด ในขณะที่เดินไประหว่าง 2 โบกี้ที่เขาเดินผ่านมาไม่มีผู้โดยสารอยู่เลยแม้แต่คนเดียวและที่สำคัญกว่านั้นคือม่านทุกบานบนกระจกของรถไฟปิดจนไม่เห็นภายนอกเลย และคุณเอก็บอกอีกว่าตอนที่เขาเดินไปหน้าขบวนรถไฟเขาสังเกตว่ารถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟที่มาจากชิซูโอกะนั่นเอง 

สถานีรถไฟ คิซารากิ สถานีสุดหลอนวิญญาณ

ฮาชูมิ Hatsumi

ต่อมาคุณเอก็ได้มีการเปิดเผยชื่ออกมาว่าเธอชื่อ ฮาชูมิ และเธอก็เล่าต่อว่ารถไฟได้วิ่งผ่านอุโมงค์ และทำท่าเหมือนกำลังจะจอดที่ชานชราชราหนึ่ง หลังจากนั้นรถไฟก็เปิดประตูเธอตัดสินใจลงไปดูที่ชานชลานั้น เพราะถ้าเกิดว่าเจอคนเธอน่าจะขอความช่วยเหลือให้พากลับบ้าน หลังจากที่เธอลงรถไฟขบวนนี้ทันใดนั้นรถไฟก็ปิดประตูรถและวิ่งออกไปจากสถานีตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ต่อมาฮาชูมิก็ได้รีบวิ่งหาคนที่อยู่บริเวณนั้นหรือนายท่าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าพอเธอวิ่งไปวิ่งมาทั้งชานชลาก็ไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียว และเธอกลับพบว่าในรอบๆบริเวณนั้นเป็นป่าเป็นหญ้า และเป็นภูเขาที่ค่อนข้างหน้ากลัว ต่อมาเธอก็ได้เจอป้ายชื่อสถานีที่เขียนว่า สถานีรถไฟคิซารากิ

 

สถานีรถไฟ คิซารากิ

ขณะที่ฮาชูมิกำลังกลัวและหาทางออกจากสถานที่ตรงนี้ ทางคนที่อยู่ในเว็บบอร์ดก็ได้แนะนำให้เธอเดินย้อนกลับไปเพื่อจะเจอถนนใหญ่หรือเจอใครที่จะให้ความช่วยเหลือเธอได้ ฮาชูมิเลยทำตามที่คนในเว็บบอร์ดแนะนำ เธอเดินย้อนไปตามทางรถไฟ และเธอก็ได้ยินเหมือนมีเสียกระดิ่งที่ทำพิธีกรรมต่างๆดังขึ้นเรื่อยๆ เธอรีบเดินไปตามทางรถไฟ พอเดินมาสักพักเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนว่า “อย่ามาเดินตรงทางรถไฟเดียวก็ตายหรอก” ขณะนั้นเธอตกใจมากและมองไปที่เสียง ปรากฏเธอเห็นชายแก่คนหนึ่งที่มีร่างกายแปลกๆ มีแขนข้างเดียว ขาข้างเดียวยืนอยู่ และชายแก่คนนั้นก็ได้หายไปต่อหน้าต่อตาเธอทำให้เธอ สติแตกอย่างมากเลยได้วิ่งไปจนได้เจออุโมงค์จนได้

 

อุโมงค์อิชานุกิ

พอฮาชูมิได้มาถึงบริเวณอุโมงค์ก็ได้ เห็นป้ายชื่ออุโมงค์ที่เขียนว่า อิชานุกิ และในตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคล้ายการทำพิธีกรรมตามหลังเธอมาติดๆ เธอจึงวิ่งผ่านอุโมงค์นี้ไปจนสุดท้ายเธอก็ได้เจอกับถนนใหญ่ เธอดีใจมากเลยได้โพสต์บอกคนในเว็บบอร์ดว่าเธอเจอถนนใหญ่แล้ว ทำให้คนที่ติดตามรู้สึกดีใจกับเธอด้วย ซึ่งขณะนั้นก็ได้มีรถขับผ่านมาเธอเลยขอติดรถไปลงที่เมืองใกล้ๆ ซึ่งคนที่ขับรถเป็นชายแก่คนหนึ่งที่ท่าทางไม่อันตราย แต่เมื่อเธอได้เล่าเรื่องราวให้คนในเว็บบอร์ดฟังกับมีข้อสงสัยที่ว่าในเวลาดึกขนาดนี้บนเขาไม่น่ามีคนขับรถขึ้นลง และทั้งชื่อสถานีกับชื่ออุโมงค์ที่เธอบอกมาคนที่อยู่ในเว็บก็ช่วยกันค้นหาข้อมูลปรากฏว่า ชื่อนี้ไม่มีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเลย ทำให้เธอเกิดความกลัว และได้หันไปบอกกับชายแก่ที่ขับรถว่าให้จอดตรงนี้หนูจะเดินต่อเอง แต่ชายแก่คนนั้นก็ไม่พูดอะไรเพิ่มแต่นั่งท่องบทสวดอะไรสักอย่างอยู่ พอเธอหันมาสังเกตอีกที ปรากฏว่าชายแก่คนนั้นได้ขับรถมาตรงจุดที่สถานีรถไฟคิซารากิ นั้นเอง

สุดท้ายฮาชูมิ ได้โพสต์ไปว่าถ้าเธอรอดมาได้เธอจะรีบกับมาบอกทุกคนก่อนที่แบตโทรศัพท์เธอจะหมดลง และจากนั้นก็ไม่มีการตอบกับของเธออีกเลย

 

สรุป 

สถานีรถไฟ คิซารากิ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเว็บบอร์ด ว่าได้มีการนั่งรถไฟไปจนถึงสถานที่ที่ไม่รู้จักและพบเจอกับเรื่องราวแปลกๆ มากมายจนสุดท้ายเธอก็ได้หายไปโดยที่ใครหลายคนก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เรื่องราวตรงนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่และเธอที่เล่ามีตัวตนอยู่จริงไหม อีกทั้งยังสถานนี้ที่มีชื่อว่า คิซิรากิ กับอุโมงค์ อิชานุกิ มีจริงหรือไม่ เพราะทั้งหมดไม่อาจถูกพิสูจน์ จึงทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่ว่าใครที่ได้นั่งรถไฟไปเจอสถานีนั้นจะไม่มีวันได้กลับมาอีกเลย เพราะสถานีนี้คือสถานีกินวิญญาณนั้นเอง

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำสิ่งดีๆ ที่จะช่วยสร้างโชคลาภให้ทุกท่าน Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด