ย้อนตำนานขุมทรัพย์ ทองคำถ้ำลิเจีย

ย้อนตำนานขุมทรัพย์ ทองคำถ้ำลิเจีย

ย้อนตำนานขุมทรัพย์ ทองคำถ้ำลิเจีย

ถ้าพูดถึงเรื่องราวของขุมทรัพย์ ของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีอยู่จริงๆในจังหวัดกาญจนบุรีของประเทศไทยจริงหรือเปล่า เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินเพราะเรื่องราวนี้ได้เป็นข่าวใหญ่โตเมื่อประมาณปี 2538 ไปจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งในช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะจบลง และญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้ว่ากันว่าได้มีสมบัติก้อนสุดท้ายเก็บไว้และสมบัติก้อนสุดท้าย ได้ถูกนำไปฝังไว้ที่ใดที่หนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่มีแม่น้ำมีภูเขา และมีเส้นทางรถไฟ ที่ญี่ปุ่นสร้างไว้ตัดผ่าน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูล ได้บอกว่ามีจำนวนอยู่ 10 กว่าถ้ำที่คาดว่าน่าจะมีสมบัติของญี่ปุ่นถูกฝังอยู่ในประเทศไทย และในบทความนี้จะพูดถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับตำนานของสมบัติที่ถูกพูดถึงและมีการค้นหากันมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้นั้นเอง

ติดตามเรื่องราวของตำนานอีกมากมายได้ที่ “คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน

 

สะพานรถไฟสายมรณะ

ในตอนนั้นประเทศไทยได้ร่วมจับมือเป็นพันธมิตรกับทางญี่ปุ่น เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นในตอนนั้น ได้มีแนวคิดในการสร้างทางรถไฟที่จะลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ร่วมถึงกำลังทหารมาที่ประเทศไทย เพื่อที่จะไปบุกพม่ากับอินเดีย ในตอนนั้นทางญี่ปุ่นได้ทำการยืมเงินจำนวน 4 ล้านบาทของไทย และขอกำลังพลของประเทศไทยไปช่วยกันสร้างสะพานขึ้นมาให้สำเร็จ ซึ่งนั้นก็คือสะพานทางรถไฟสายมรณะนั่นเองได้โดยสะพานรถไฟนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่นในยุคนั้นที่ คาดกันว่าถ้าสามารถสร้างเสร็จได้ จะสามารถไปตีประเทศต่างๆได้อย่างง่ายดายและบุกเข้ายึดประเทศเหล่านั้นได้โดยที่เสียกำลังพลน้อยที่สุด และได้ผลประโยชน์มากที่สุดนั่นเองแต่สะพานสายมรณะตรงนี้ กับสร้างไม่เสร็จเพราะเนื่องจากในเวลานั้นญี่ปุ่นอยู่ในช่วงที่กำลังพลใกล้จะหมด พร้อมกับเสบียงก็แทบไม่เหลือ ก็คืออยู่ในช่วงที่กำลังจะแพ้สงครามโลกนั้นเอง ทางผู้นำญี่ปุ่นเลยตัดสินใจประกาศยกธงขาวขอยอมแพ้ต่อสงคราม แต่ก่อนที่เขาจะประกาศขอยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขารู้ว่าเขาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าเสียหายทางด้านสงคราม ค่าเสียหายทางด้านพลเรือนและจะต้องทำการจดสัญญาต่างๆ ที่ญี่ปุ่นอาจจะต้องเสียเปรียบแน่นอน ซึ่งตอนนั้นญี่ปุ่นได้มีสมบัติที่ยึดมาจากหลายประเทศอยู่กองสุดท้าย ที่คาดว่าน่าจะมีประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในยุคนั้น โดยเป็นทองคำแท่งทั้งหมด ซึ่งญี่ปุ่นไม่ยอมเสียสมบัติกองนี้อย่างแน่นอน เลยมีเรื่องเล่ากันว่าทางผู้นำของญี่ปุ่นตัดสินใจนำสมบัติเหล่านั้นเข้ามาฝังอยู่ที่ใดสักทีหนึ่ง ในพื้นที่ที่เส้นทางรถไฟสายมรณะนี้ตัดผ่านนั่นเอง

 

การคาเดาจุดฝังของสมบัติ

ตามข้อมูลได้คาดการไว้ว่าพื้นที่ที่มีการฝังสมบัติไว้ น่าจะกระจายตัวมากกว่า 10 จุดในพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรีทั้งหมด ข้อมูลได้บอกไว้ว่าสมบัติของคนญี่ปุ่นเป็นทองคำที่มีน้ำหนักกว่า 20,000 กิโลกรัม และเป็นทองคำแท่งทั้งหมด แล้วคนญี่ปุ่นได้นำทองเหล่านั้นไปไว้ในถ้ำใดคำหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับทำการโบกปูนไว้ 1 ชั้นและทำการระเบิดถ้ำ เพื่อให้หินถล่มมากลบพื้นที่ และไม่ให้ใครสามารถเข้าไปได้นั่นเอง แต่ทางทีมค้นหาแล้วก็ทีมนักวิจัยในตอนนั้น ก็คาดการณ์กันว่าถ้ำที่คนญี่ปุ่น ได้นำทองไปฝังไว้ น่าจะเป็นถ้ำที่มีแม่น้ำไหลผ่านและถ้าตรงไหนมีแม่น้ำไหลผ่านแล้วในแม่น้ำนั้นมีส่วนประกอบของปูนขาวละลายอยู่ในน้ำนั้น แสดงว่าสมบัติจะต้องอยู่ในถ้ำที่ใกล้กับแม่น้ำนั้นอย่างแน่นอน แต่นี่เป็นการคาดเดาเท่านั้นเพราะตั้งแต่อดีตในช่วงสงครามโลกยังไม่เคยมีใครพบเจอกับสมบัตินั้นเลย

ย้อนตำนานขุมทรัพย์ ทองคำถ้ำลิเจีย
3D landscape of spooky walking zombies

การพบเจอทองคำของชาวบ้าน

ในปี 2535 ได้มีข่าวที่ทำให้ชาวไทย ต้องตกตะลึงกันทั้งประเทศ เพราะว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่ได้มีชาวบ้าน ขุดพบทองคำแท่งหนักกว่า 20 กิโลกรัมได้ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตรงจุดนี้เลยทำให้คนเริ่มคิดแล้วว่าเรื่องของตำนานสมบัติของคนญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะไม่ใช่นิยายหรือเรื่องเล่า แต่อาจจะเป็นเรื่องจริงและอาจจะมีขุมทองมากกว่าที่ชาวบ้านเจอก็เป็นได้ ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 2538 ได้มีการขุดค้นพบรางรถไฟยาว 15 เมตรอยู่ลึกลงไปจากผิวดิน 6 เมตรในพื้นที่ของบริเวณที่มีการขุดค้นพบทองของชาวบ้าน ซึ่งจากการขุดค้นพบครั้งนี้เส้นทางรถไฟ ที่ขุดได้ชี้ไปยังถ้ำของเขาจันเดย์ เลยคาดการณ์กันว่าถ้ำจันทร์เดย์ ในจังหวัดกาญจนบุรี อาจจะเป็นที่เก็บฝังขุมทองอยู่ก็เป็นได้ และนี้ก็กลายเป็นวาระแห่งชาติที่ทำให้คนใหญ่คนโตข้าราชการรวมถึงรัฐมนตรีในยุคนั้น ต้องมาลงพื้นที่และลงมือสั่งการขุดเจาะกันอย่างจริงจัง และทำให้คนไทยเริ่มหันมาสนใจข่าวนี้กันอย่างมาก แต่สุดท้ายผลที่ออกมามันกลับหน้าผิดหวัง ปรากฏว่าจะขุดไปลึกเท่าไรก็ไม่เจออะไร เจอแต่เพียงหน้าดินหินและทรายเพียงเท่านั้น หลังจากความผิดหวังครั้งนี้ได้ถูกตีแผ่เป็นข่าวไป เรื่องของทองคำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของชาวญี่ปุ่น ก็เริ่มถูกลืมและเลือนลางหายไปจากความสนใจของประชาชนชน

 

สมบัติในถ้ำลิเจีย

ในปี 2544 ได้มีข้าราชการคนหนึ่ง ที่อยู่ในทีมขุดเจาะในปี 2538 ได้ออกมาอ้างกับสื่อว่า ได้เจอหลักฐานบางอย่างที่ยืนยันการมีอยู่ของสมบัติชาวญี่ปุ่นอย่างชัดเจน และระบุว่าทองคำเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในถ้ำจันเดย์ แต่อยู่ในถ้ำที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกันนั่นก็คือถ้ำลิเจียนั่นเอง และประเทศไทยในตอนนั้นติดหนี้ IMF กว่า 500,000 ล้านบาท เลยทำให้คนใหญ่คนโตในยุคนั้นตัดสินใจส่งหนังสือยื่นเรื่องไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่าขอให้การขุดเจาะสมบัติในครั้งนี้เป็นวาระแห่งชาติ และช่วยนำรถแม็คโครเข้ามาช่วยในการขุดครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการยื่นเรื่องไป ปรากฏว่าทางสำนักงานนายกรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติเรื่องนี้ออกมา และให้เวลาในการขุดเจาะเพียงแค่ 30 วันเท่านั้น หลังจากที่ได้มีการขุดเจาะไป ปรากฏว่ามีการค้นพบสมบัตินั้นจริง แต่สมบัติไม่ใช่ทองคำ แต่เป็นพันธบัตรทองคำและพันธบัตรของสหรัฐอเมริกาที่มีมูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาทนั่นเอง หลังจากที่มีการขุดเจอสมบัติชิ้นแรก ทำให้คนไทยในตอนนั้นคิดว่าถ้าขุดไปเรื่อยๆ อาจจะได้เจอทองคำแท่งอย่าที่ชาวบ้านเคยเจอก็เป็นได้ ซึ่งก็ได้ทำการขุดต่อไปเรื่อยๆแต่โครงการขุดตรงนี้ก็ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากว่าหลังจากที่ได้มีการขุดต่อไป ทางที่วิศวกรและทางทีมวิจัยทางธรณีวิทยา เขาคาดการณ์กันว่าตอนนี้ทั้งหน้าดินทั้งถ้ำพร้อมที่จะถล่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่สามารถให้มีการขุดเจาะได้เพราะถ้าหากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจนมีคนเสียชีวิต ทางกระทรวงที่ดูแลอุทยานแห่งชาติหรือทางธรรมชาติตรงนี้ก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด เลยมีการสั่งหยุดการขุดเจาะไว้แต่เพียงเท่านั้นและต่อมาประเทศไทยในตอนนั้นกำลังจะนำพันธบัตรเหล่านี้ไปขึ้นเงินกับทางธนาคารของสหรัฐ แต่แล้วความหวังก็ต้องพังลงเพราะพบว่าพันธบัตรเรานั้นหลังจากที่มีการตรวจสอบปรากฏว่าทั้งหมดเป็นของปลอมนั้นเอง และเรื่องราวของสมบัติในถ้ำลิเจียก็ได้กลายมาเป็นตำนานที่ยังคงมีการ คาดเดาว่าทองคำน่าจะอยู่ในถ้ำแห่งนี้อย่างแน่นอน

 

สรุป 

ตำนานขุมทรัพย์ ทองคำถ้ำลิเจียเป็นตำนานที่คาดว่าน่าจะมีอยู่จริง เพราะการพบเจอหลักฐานมากมายรวมถึง การขุดพบเจอสิ่งของต่างๆในสมัยสงครามโลกในตอนนั้น และก็ยังไม่ได้มีการขุดหรือสำรวจถ้ำในพื้นที่ได้ครบ เพราะด้วยเป็นเขตอุทยาน เลยไม่สามารถทำการขุดได้อีกทั้งยังมีคนที่ เชื่อว่าทองคำนั้นมีอยู่จริง แต่มันได้ถูกชาวญี่ปุ่นนำออกไปหลังจากจบสงครามแล้ว แต่ไม่ว่าตำนานนี้จะเป็นเรื่องเล่าหรือเรื่องจริง คนในยุคปัจจุบันก็ยังคงมีการพูดถึงหรือสำรวจหาทองคำนี้กันอยู่เรื่อยมานั้นเอง

อ่านบทความจบแล้ว อย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด