มังกร สัตว์ในตํานาน เคยมีอยู่จริงหรือไม่
ถ้าพูดถึงมังกร ในตำนานหรือว่าด้วยเรื่องของมังกร เชื่อว่าหลายคนคงจะเห็นภาพจำเดิมที่ว่ามังกรจะมีลักษณะต้องบินได้ ตัวใหญ่แล้วก็คล้ายๆกับสัตว์เลื้อยคลานอะไรประมาณนี้ และอาศัยอยู่ในถ้ำตามภูเขาใหญ่หรือในบึงน้ำที่มีขนาดใหญ่ และในบทความนี้จะมาพูดถึงประวัติแรกเริ่มของมังกร และมาค้นหาข้อมูลว่าตำนานต่างๆที่พูดถึงมังกรจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีจริงหรือไม่หรือเป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาเท่านั้น
“คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน
ประวัติแรกเริ่มของมังกร
มังกรที่เรารู้จักกันมากในยุคปัจจุบัน จะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปบางทีก็เป็นมังกรน้ำบ้างก็มังกรไฟหรือมังกรจีน มังกร ในตำนานอยู่แทบทุกพื้นที่ทั่วโลก แต่ว่าจริงๆรูปแบบของมังกรยุคแรกเริ่มจะมีลักษณะคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่ไม่มีขาคล้ายกับงูขนาดใหญ่ แล้วก็มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณน้ำมากกว่าบนบก และอาศัยอยู่ค่อนข้างที่จะลึกพอสมควรจนบางทีคนอาจจะมองว่ามังกรจริงๆ แล้วเป็นเพียงแค่ปลาโบราณนั้นเอง ซึ่งตำนานมังกรมันมีมานานมากตั้งแต่ช่วงก่อนคริสตกาล แล้วก็มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเวลาผ่านมาถึงประมาณศตวรรษที่ 5 ตำนานมังกรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเริ่มมีขาเริ่มมีปีกเริ่มพ่นไฟได้ ซึ่งตำนานเหล่านี้ก็ได้ไปผูกกับ บุคคลในประวัติศาสตร์หลายคนมากทั้ง King Arthur หรือกษัตริย์ราชวงศ์ที่มีการพูดถึงว่ามีการต่อสู้รบกับมังกรแล้วก็มีบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งตำนานที่น่าสนใจ และมีการไขปริศนาจนกระจ่างแล้วมีอยู่ 2 ตำนาน ก็คือ ตำนานของ Anglo Saxon กับตำนานของ Beowulf
มังกร ในตำนานของ Anglo Saxon
มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ LindisFarn ในทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษเมื่อประมาณปี 793 ได้บอกไว้ว่าทาง Anglo Saxon ได้สังเกตเห็นสิ่งมีชีวิตคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน บินวนต่ำอยู่รอบๆเกาะที่เขาอยู่ ก่อนที่จะถูกโจมตีและเกิดไฟไหม้หลายจุดซึ่งขณะนั้น และเรื่องราวนี้ก็ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องของมังกร แต่ปริศนาก็ได้ถูกไขแล้วว่ามังกรที่บินอยู่รอบๆเกาะนั้นที่ Anglo Saxon เห็นเป็นเพียงหัวเรือของชาวไวกิ้ง ที่ออกล่าขุมสมบัติและอาณานิคมในยุคนั้น และมังกรที่เขาเห็นว่าบินอยู่รอบๆนั่นก็คือการขับเรือวนอยู่รอบๆพื้นที่ Lindisfarne เพราะด้วยวิสัยทัศน์ตอนกลางคืนที่เขามองเห็นไม่ชัดเขาเลยเชื่อว่ามันเป็นมังกรนั่นเอง
มังกร ในตำนานของ Beowulf
ตำนานที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และเป็นตำนานที่คนสมัยนั้นพูดกันค่อนข้างที่จะหนาวหูได้บอกไว้ว่า Beowulf เป็นนักรบจากทางสแกนดิเนเวียที่ถูกมังกรเข้าโจมตี เพราะถูกเข้าใจว่าลูกน้องของเขาได้ขโมยสมบัติของมังกรไป มังกรเลยบุกมาทำลายอาณาจักร จน Beowulf ต้องเข้าทำการต่อสู้กับมังกร แต่มังกรตัวนี้จะออกล่าเหยื่อ และเข้าโจมตีในตอนเวลากลางคืนเท่านั้น พอถึงตอนเช้ามังกรตัวนี้ก็จะกลับไปที่อาศัยของมัน ที่เป็นเนินดิน ซึ่งในเวลาต่อมา Beowulf ก็ได้บุกไปที่เนินดินที่มันอยู่พร้อมกับญาติอีก 1 คนเพื่อที่จะสังหารมังกรตัวนี้เพื่อไม่ให้มันกลับไปทำลายบ้านเมืองเขาอีกรอบ และผลสรุปออกมาคือ Beowulf เสียชีวิตจากการต่อสู้กับมังกรครั้งนี้และมังกรก็ได้ตายลงเช่นกัน ซึ่งหลักฐานที่ถูกค้นพบเกี่ยวกับตำนานมังกรของ Beowulf คือได้ค้นพบสมบัติตามตำนานนั้นจริง และของ 1 ชิ้นที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นของ Beowulf นั่นก็คือหมวกเกราะเหล็กที่มีรูปสลักมังกรอยู่ในหมวกนั้นด้วย ดังนั้นจึงมีการตั้ง 2 ทฤษฎีนี้ขึ้นมาว่า Beowulf อาจจะสู้กับมังกรจริงแต่มันอาจจะไม่ตายแต่อาจจะหนีไป กับการที่ Beowulf พูดถึงเรื่องมังกรอาจจะเป็นเพียงการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อไม่ให้ใครเข้าใกล้สมบัติของเขาก็เป็นได้ ซึ่งตอนแรกคนเชื่อกันว่ามังกรมีจริงแต่ในเวลาต่อมา ก็เริ่มมองว่ามังกรเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่ไม่มีจริง
ความเห็นทางวิทยาศาสตร์
ทางนักนักวิทยาศาสตร์ก็ได้มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องมังกรว่า น่าจะเป็นแบบที่พูดถึงกันในยุคแรกเริ่มนั่นก็คือเป็นลักษณะของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่หรืองูยักษ์ที่เรารู้จักกันในนามของไททันโอโบอา นั่นเอง แต่มีนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งเขาเชื่อกันว่ามังกรมีอยู่จริงๆและเป็นสัตว์โบราณเหมือนไดโนเสาร์เลย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ไม่ได้มองเหมือนกลุ่มแรกที่มองว่ามังกร คือสัตว์สายพันธุ์เดียวกับประเภทงู แต่เขามองว่ามังกรคือสัตว์สายพันธุ์เดียวกับพวกสัตว์เลื้อยคลานที่มีการวิวัฒนาการมีขาออกมาและมีปีกออกมานั่นเอง และสาเหตุที่เขาเชื่อกันว่าทำไมเราถึงไม่ค้นพบฟอสซิลมังกรเลยจากการสันนิษฐานเขาเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์มีปีกอาศัยอยู่ค่อนข้างที่จะไม่เป็นหลักแหล่งบางตัวก็บินไปอยู่ในถ้ำบางตัวก็บินไปอยู่ในใต้เนินดินบางตัวก็บินไปอยู่บนเขาซึ่งแต่ละจุดนี้มันเป็นจุดที่เข้าถึงยาก และมันเป็นจุดที่ค่อนข้างที่จะยากในการที่จะเข้าไปค้นหาฟอสซิล ซึ่งฟอสซิลมังกรเขาตีว่าเป็นเสมือนฟอสซิลของนกโบราณเลยตามสารคดีหรือตามข่าวบอกว่า ฟอสซิลที่หายากที่สุดไม่ใช่ฟอสซิลไดโนเสาร์แต่เป็นนกในยุคดึกดำบรรพ์นั้นเอง เพราะถ้าเกิดอันตรายพวกมันก็สามารถบินไปหลบซ่อนในที่ต่างๆได้ ทำให้การค้นพบฟอสซิล ของพวกมันค่อนข้างจะหายากมากนั้นเอง
สรุป
มังกร ในตำนาน อาจจะเป็นเพียงสัตว์เลื้อยคลานโบราณที่มีขนาดใหญ่ และถูกมองว่านี้คือรูปลักษณ์ต้นกำเนิดของมังกร จนถูกเติมแต่งจากผู้ที่ได้พบเห็นในอดีตจนกลายเป็นรูปลักษณ์ที่บอกว่า มังกร ในตำนาน ที่มีปีกมีขาบินได้ อีกทั้งยังพ่นไฟได้ ทำให้เกิดเป็นความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสมบัติของมังกร และก็เป็นตำนานเกี่ยวกับการฆ่ามังกรเกิดขึ้น ซึ่งจริงแล้วก็ยังไม่มีใครได้พบเจอกับมังกรตัวจริง หรือค้นพบหลักฐานว่ามีซากมังกรอย่างที่ถูกเล่าขนานตามตำนานได้เลยสักคน สุดท้ายมังกรก็ยังถูกพูดถึงตลอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และยังถูกนำไปสร้างเป็นหนัง และสัญลักษณ์ต่างๆมากมายในปัจจุบันนั่นเอง
สุดท้ายนี้ ขอแนะนำสิ่งดีๆ ที่จะช่วยสร้างโชคลาภให้ทุกท่าน Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด