ปลัดขิกหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ

ปลัดขิกหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ

 

ปลัดขิกหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ

ถ้าพูดถึงปลัดขิกเชื่อว่าคนส่วนมากน่าจะรู้จักกับสิ่งนี้ไม่มากก็น้อย เพราะเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ที่คนมักจะนำมาบูชาเพื่อปกปักรักษา และช่วยคุ้มครองภัยอันตรายของผู้ที่นับถือบูชาอีกด้วย ซึ่งปลัดขิกเป็นหนึ่งในของขลังที่คนนิยมพกติดตัวไปไหนมาไหนกันมากเพราะ เชื่อว่าการพกติดตัวไปจะมีแต่สิ่งดีๆและไม่มีวิญญาณชั่วร้ายกล้าเข้ามาทำอะไรได้ และในบทความนี้จะมาพูดถึงพระเกจิอาจารย์หนึ่งรูปที่โด่งดังมากเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลที่มีชื่อว่าปลัดขิกนี้ ซึ่งพระรูปนั่นก็คือหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบนั่นเอง

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับวัตถุมงคลอีกมากมาย ที่สามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน

ประวัติหลวงปู่อี๋

พระครูวรเวทมุนี หรือที่รู้จักกันในชื่อทั่วไปว่า หลวงอี๋ ท่านได้เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2408 ตรงกับวันอาทิตย์ ปีฉลู ที่ตำบลสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่ออายุ 25 ปี ท่านได้เข้าอุปสมบทที่วัดอ่างศิลานอก โดยมีพระอาจารย์จั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รัยฉายาว่า พุทธสโร และในตอนนั้นหลวงปู่อี๋ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน ซึ่งต่อมาปี พ.ศ. 2442 หลวงปู่อี๋ได้สร้างวัดขึ้นมาชื่อว่าวัดสัตหีบ (วัดหลวงปู่อี๋) และท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลวงปู่มีความชำนาญในด้านสมถะวิปัสสนาธุระมากคือ คล่องแคล้วในการเข้าใน ออกนอก และในการพักจิตอยู่เป็นกสิณ เพราะเมื่อท่านต้องการที่จะสำรวมจิตรแล้ว ไม่มีอะไรมาขัดขวางทางเดินภายในของท่านได้ซึ่งเป็นการเข้าออกได้เรียบร้อยตามต้องการ ต่อมาหลวงปู่ได้สร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง และพระเครื่องไว้มากมาย  ทั้งตะกรุด เสื้อยันต์ พระปิดตา และปลักขิกหลวงปู่อี๋ก็มีชื่อเสียงอย่างมากเป็นต้น และหลวงปู่อี๋ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาอย่างมาก ซึ่งในสมัยนั้นท่านได้สร้างโรงเรียนประชาบาล 1 หรืออีกชื่อคือโรงเรียนสัตหีบนั่นเอง เวลาต่อมาในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2489 หลวงปู่ก็ได้มรณภาพอย่างสงบ โดยสิริอายุของท่านได้ 82 ปีนั่นเอง

ปลัดขิกหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ

ปลัดขิก

ปลักขิกจัดเป็นเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมอีกอย่างของคนไทย ปลักขิกส่วนมากแกะสลักมาจากไม้ที่เชื่อว่าเป็นไม้มงคล หรือบางทีอาจทำมาจาก หิน ทองเหลือง ทองแดง กัลปังหา เขา งา เขี้ยวของสัตว์เป็นต้น ปลักขิกจะมีรูปร่างคล้ายอวัยวะเพศชาย และมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป เมื่อทำการแกะสลักแล้วก่อนนำมาบูชาเป็นเครื่องรางของขลัง จะต้องทำการปลุกเสกโดยมีผู้มีความรู้ด้านไสยศาสตร์หรือพระภิกษุ ซึ่งหากทำการปลุกเสกด้วยพระภิกษุเชื่อกันว่าจะได้รับพระพุทธคุณมาด้วย ในปัจจุบันจึงพบว่าปลักขิกส่วนใหญ่ จะมาจากการปลุกเสกของพระภิกษุ และความเชื่อของคนไทยบางคนเชื่อว่าปลักขิกจะให้คุณแก่ผู้บูชา ส่วนชาวต่างชาติมักจะมองว่าเป็นเหมือนของสะสมนั่นเอง

 

ตำนานปลัดขิกหลวงปู่อี๋

ครั้งหนึ่งหลวงปู่อี๋ได้เดินทางไปที่โคนต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง และท่านได้พบบ่อน้ำอยู่บริเวณนั้นจึงได้หยุดพักปักกลด ในระหว่างนั้นท่านได้ไปนั่งมองดูบ่อน้ำทุกวัน เพราะท่านได้เห็นปลักขิก ผุดขึ้นมาจากผิวน้ำเหมือนปลาที่ผุดขึ้นมาหายใจ หลวงปู่พยายามช้อนมันขึ้นมา แต่ทำยังไงท่านก็ไม่สามารถนำมันขึ้นมาได้ แต่แล้วก็มาชาวบ้านคนหนึ่งที่มีอายุมากแล้วเดินเข้ามา และถามหลวงปู่ว่า “ทำอะไรท่าน” ซึ่งหลวงปู่อี๋ก็ตอบว่าช้อนปลัดขิก ซึ่งชาวบ้านคนนั้นก็บอกว่าอย่าช้อนเลย ท่านช้อนไม่ได้หรอก ถ้าท่านอยากได้จริง ให้หาหญิงพรหมจารีมาช้อนจึงจะช้อนได้ พอหลวงปู่ได้ยินจึงได้ตามหาหญิงพรหมจารีมาได้หนึ่งคน และขอให้ผู้หญิงคนนั้นช้อนปลักขิกให้ท่านหน่อย ซึ่งพอผู้หญิงคนนั้นช้อนก็ได้ปลักขิกขึ้นมาจริงๆ แต่ไม่สามารถช้อนครั้งที่สองได้นั่นเอง และเมื่อหลวงปู่อี๋ได้ปลัดขิกแล้วท่านก็เดินทางกลับมายังวัด และท่านก็พยายามหาวิธีสร้างปลัดขิก โดยจำลองจากอันที่ท่านได้มา ในการสร้างครั้งแรกเป็นไปด้วยความลำบากเพราะต้องสร้างถึง 108 ตัว เพื่อคัดเลือกจ่าฝูง พอได้จ่าฝูงมาแล้วในการสร้างครั้งต่อไปก็ไม่ต้องจำกัดจำนวน เพราะเมื่อมาจ่าฝูงแล้วตัวที่เหลือก็จะทำตามนั่นเอง เพราะเชื่อว่าจ่าฝูงมีพลังของปราณมากที่สุด เมื่อได้ปลักขิกจ่าฝูงแล้ว อยู่มาวันหนึ่งหลวงปู่อี๋ก็ได้นำปลักขิกมาทดลองในบ่อน้ำที่วัด ปลักขิกของท่านได้วิ่งอยู่บนน้ำ สั่งให้จมก็จมสั่งให้ลอยก็ลอย ทำให้เกิดความประหลาดใจแก่พระภิกษุและญาติโยมที่มาเห็นเป็นอย่างมาก จึงทำให้หลวงปู่อี๋มีชื่อเสียงโด่งดังมากนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

 

สรุป 

ปลัดขิกหลวงปู่อี๋เป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ที่ถูกยกว่าเป็นเครื่องรางต้นๆของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะผู้ที่ได้บูชาล้วนแต่ประสบพบเจอกับปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องค้าขาย แคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน ก็มีการพูดถึง และในปัจจุบันปลักขิกของหลวงปู่อี๋ก็มีมูลค่าที่สูงมาก ทำให้เป็นของที่หายากแล้วผู้ที่มีไว้ครอบครองมักจะเก็บรักษาเป็นอย่างดีนั่นเอง

อ่านจบแล้วอย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด