นครสาปสูญ โยนกนคร ตำนาน หรือ เรื่องจริง

นครสาปสูญ โยนกนคร ตำนาน หรือ เรื่องจริง

นครสาปสูญ โยนกนคร ตำนาน หรือ เรื่องจริง

ถ้าพูดถึงตำนานพญานาคถลมเมืองเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวตำนานพวกนี้กันมาบ้างแล้ว ซึ่งในบทความนี้จะมาเล่าถึงหนึ่งตำนานที่เกี่ยวกับพญานาคถลมเมืองแต่ตำนานนี้แปลกว่าตำนานอื่น เพราะมีการถูกบันทึกเรื่องราวคล้ายกันไว้ในอดีตด้วย และนั่นก็คือตำนานนครที่สาปสูญโยนกนคร เรื่องราวจะเป็นอย่างไรจะมีที่มที่ไปอย่างไรติดตามได้ในบทความนี้นั่นเอง

มีตำนานอีกมากมายรอให้ท่านได้พิสูจน์ ซึ่งสามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน

จุดกำเนิดเมืองโยนกนคร

ตํานานเวียงหนองหล่มไม่เหมือนกับตำนานอื่นๆ ของไทยเพราะเมื่อไม่นานนี้ได้ปรากฏหลักฐานหลายอย่าง ที่บ่งบอกว่าเรื่องราวของอาณาจักรโบราณที่ล่มสลายกลายเป็นแอ่งน้ำ อาจจะเป็นเหตุการณ์จริงที่ถูกเล่าสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่นเป็นนิทานปรัมปราที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่เจ้าชายสิงหนวัติกุมาร ได้พาชาวบ้านแล้วก็ประชาชนของตนออกเดินทาง เพื่อเสาะแสวงหาพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งรกรากและสร้างเมืองใหม่ ซึ่งหาไปเท่าไหร่ก็ไม่ถูกอกถูกใจสักทีจนกระทั่งเดินทางมาถึงบริเวณแม่น้ำโขง เจ้าชายสิงหนวัติกุมารก็ได้พบกับพญานาคจำแลงกายเป็นชายแปลกหน้านุ่งขาวห่มขาว เดินเข้ามาทักทายกับพระองค์เมื่อพญานาคทราบจุดประสงค์ของเจ้าชายแล้วก็พวกชาวบ้าน จึงแสดงตนว่าเป็นพญานาคและยื่นข้อเสนอกับเจ้าชายว่าเขาสามารถส่องหาและบอกที่ตั้งพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การตั้งรกรากให้กับชาวบ้านทั้งหมดได้ แต่ว่ามีข้อแม้ที่จะต้องให้ชาวเมืองสัญญากับเขาเพียงข้อเดียว นั่นก็คือเมื่อตั้งเมือง และอยู่อาศัยกันได้แล้วให้ชาวเมืองทั้งหมดรักษาศีลธรรมอย่างเคร่งครัดพร้อมทั้งอุทิศบุญกุศลให้แก่เขาอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อประชาชนทุกคนได้ยินยอมที่จะทำตามข้อเสนอเพียงข้อเดียวของพญานาค พญานาคจึงชี้ไปยังพื้นที่รอบเขาริมแม่น้ำกก แล้วบอกว่าเป็นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสร้างเมือง เมื่อบอกแล้วพญานาคตนนั้นก็หายไปในทันที

 

เมืองโยนกนคร

ฝ่ายเจ้าชายสิงหนวัติกุมารและชาวบ้านพากันออกเดินทางมาจนถึงพื้นที่ที่พญานาคบอกแล้วช่วยกันสร้างบ้านแปลงเมืองจนสำเร็จ โดยมีเจ้าชายสิงหนวัติกุมารขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกพร้อมกับตั้งชื่อเมืองนี้ว่า โยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติหรือโยนกนาคนครสิงหพันธ์ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่กษัตริย์สิงหนวัติและเผ่าพันธุ์ของพญานาคไปในคราวเดียวกัน และนับตั้งแต่นั้นเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติหรือโยนก นครก็เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง สืบต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนเวลาผ่านล่วงเลยมากว่า 450 ปี เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยของพระยามหาชัยชนะกษัตริย์องค์ที่ 45 สัญญาของชาวเมืองที่มีต่อพญานาคก็เริ่มเลือนลางลงจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เมืองล้มสลายนั่นเอง

 

พญานาคถล่มเมือง

อยู่มาวันหนึ่งได้มีชาวบ้านออกไปหาปลาที่แม่น้ำกก หลังหมู่บ้านตามวิธีปกติทั่วไปแต่วันนี้แปลกกว่าทุกวัน เพราะชาวบ้านได้จับปลาไหลเผือกมาได้ 1 ตัว ซึ่งแปลกประหลาดมากไม่เหมือนกับปลาไหลทั่วไป เพราะมีลำตัวเป็นสีขาวและใหญ่เท่ากับต้นตาล มีความยาวมากถึง 7 วา ชาวบ้านจึงได้พากันเอาปลาไหลเผือกตัวนี้ไปถวายให้กับเจ้าเมือง ซึ่งเจ้าเมืองก็เลยสั่งให้เอาปลาไหลเผือกตัวใหญ่ตัวนี้ไปแบ่งแจกจ่ายให้กับชาวบ้านโดยทั่วถึง พวกชาวบ้านก็เลยฆ่าปลาไหลเผือกยักษ์ แล้วก็ซอยเนื้อแบ่งกันกินทั่วทั้งเมือง แต่ถ้าว่ามีหญิงชราตาบอดนางหนึ่งซึ่งไม่มีลูกหลานจึงไม่มีใครนึกถึงนางและไม่ได้นำเนื้อปลาไหลเผือกไปให้นางกิน ทำให้มื้อค่ำของวันดังกล่าวของทุกครังเรือน ยกเว้นหญิงมาชราเต็มไปด้วยเนื้อปลาไหลเผือก กินกันจนอิ่มหมีพีมัน แต่ชาวบ้านหารู้ไม่ว่าปลาไหลเผือกกินกันอยู่นั้น คือลูกของพญานาคแห่งลุ่มแม่น้ำโขงที่แปลงกายขึ้นมาเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์ และในค่ำคืนนั้นเองเมื่อพญานาคผู้พ่อรู้ข่าวว่าชาวบ้านของเมืองโยนก นครฆ่าลูกตนตาย แถมยังแบ่งเนื้อไปกินกันทั้งเมืองก็โกรธมากตกดึกคืนนั้น พญานาคจึงบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ถึง 2 ครั้ง ทำให้เมืองพังทลายราบเป็นหน้ากลอง แผ่นดินทรุดตัวลงกลายเป็นหนองน้ำเกือบทั้งเมืองเหลือเพียงบ้านของหญิงชรา ที่ไม่ได้กินเนื้อปลาไหลเผือกเหมือนคนอื่นกลายเป็นแผ่นดินกลางน้ำที่ชาวบ้าน ที่ในยุคต่อมาเรียกว่าเกาะแม่หม้ายและเรียกหนองน้ำที่อดีตเคยเป็นเมืองโยนก นครว่า เวียงหนองล่องหรือเวียงหนองหล่มหรือเวียงหนอง จนปัจจุบันนี้นั่นเอง

นครสาปสูญ โยนกนคร ตำนาน หรือ เรื่องจริง

หลักฐานในประวัติศาสตร์

ซึ่งตํานานเวียงหนองหล่มนั้นไม่เหมือนกับตำนานของไทย เพราะทีแรกดูเหมือนว่าจะเป็นแค่นิทานปรัมปราเท่านั้น และในเวลาต่อมาหลังจากได้มีการรวบรวมและวิจัยเชิงเอกสารทั้งจากจารึกจดหมายเหตุ และพงศาวดารต่างๆรวมถึงบันทึกประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งสำคัญที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างพงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน ประชุมพงศาวดารภาคที่ 61 องค์การค้าของคุรุสภาพระนคร 2512 หน้าที่ 44 ถึง 48 ได้บันทึกเอาไว้ว่าเมื่อราวปี พ.ศ. 1558 ใดเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วถึง 3 หน ครั้งแรกเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนกับแผ่นดิน จะเคลื่อนแตกออกเป็นเสี่ยงแล้วหยุดหายไปสักพัก ก่อนที่แผ่นดินไหวหนที่ 2 จะเกิดขึ้นตามมาแบบติดๆแล้วก็หยุดไป ต่อด้วยหนที่ 3 ซึ่งรุนแรงที่สุดทำให้เวียงโยนก นครหลวง จมหายไปกลายเป็นหนองน้ำคงเหลือไม่เพียงแค่เรือนแม่ม่ายเฒ่าเพียงหลังเดียวเท่านั้น และนี้ก็คือเรื่องราวของนครที่หายสาปสูญ

 

สรุป 

นครที่หายสาปสูญเป็นเรื่องราว ที่ถูกเล่าต่อกันมาตั้งแต่อดีตว่าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับพญานาค โดยคนในเมืองนี้ได้ทำผิดคำสัญญากับพญานาคจึงทำให้พญานาคโกรธและดลบันดาลให้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้เมืองทั้งเมือจมหายไปภายในค่ำคืนเดียว และกลายมาเป็นตำนานจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง

อ่านบทความจบแล้ว อย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด