ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข หาดบางแสน

ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข หาดบางแสน

ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข หาดบางแสน 

เขาสามมุข สถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวขึ้นชื่อของจังหวัดชลบุรี สามารถมองเห็นทะเลชายหาดบางแสนได้แบบกว้างไกล นอกจากนั้นแล้วสถานที่แห่งนี้ยังมีตำนานรักอันเลื่องชื่อที่ถูกเล่าต่อกันมาอย่างยาวนาน ทั้งเป็นต้นแบบของความรักความซื่อสัตย์ และความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่สามมุข ตำนานนี้จะมีที่มายังไง และจะจบลงอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

ติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักอีกมากมายได้ที่ “คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน

เขาสามมุข

เขาสามมุข เดิมเคยมีชื่อว่า เขาสมมุก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือหาดบางแสน เป็นเนินเขาที่มีความสูง 45 เมตร อยู่ที่ตัวเมืองชลบุรี หากมองไกลๆจะเห็นเป็นภูเขาที่มีแหลมยื่นออกไปทางทะเลเป็นรูปสามเหลี่ยม  บนเนินเขาสามมุขมีศาลของเจ้าแม่สามมุขตั้งอยู่ คนในพื้นที่และคนภายนอกต่างก็เคารพสักการะศาลแห่งนี้ บริเวณรอบเขาสามมุขมีจุดชมวิว สามารถมองเห็นทะเลบางแสนได้แบบกว้างไกล และมีสวนสาธารณะที่มีบรรยากาศที่สวยงาม เขาสามมุขเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี คนในพื้นที่ต่างก็เชื่อว่าภูเขาแห่งนี้จะช่วยปกปักรักษาชาวประมงให้พ้นจากอันตราย และเขาสามมุขยังมีตำนานที่เป็นแบบอย่างของความรัก ความซื่อสัตย์ที่หนุ่มสาวมีให้กัน

ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข หาดบางแสน

ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข 

ตำนานเล่าว่า มีหญิงสาวที่มีรูปร่างดงามชื่อว่า สามมุข อาศัยอยู่กับยายที่มีฐานะยากจนเพียงลำพังที่เมืองบางปลาสร้อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตำบลอ่างหิน (นั้นก็คือตำบลอ่างศิลา ในปัจจุบัน) มีนายกำนันชื่อกำนันบ่าย เป็นคนที่มีน่ามีตา ฐานะร่ำรวยเนื่องจากเป็นเจ้าของโป๊ะจับปลาอยู่หลายแห่ง มีลูกชายสุดที่รักชื่อว่า แสน นายแสนเป็นคนที่หล่อเหลา อยู่มาวันหนึ่งนายแสนได้ชวนเพื่อนๆเขาเล่นว่าว แต่ว่าวของนายแสนนั้นเชือกดันขาดทำให้ปลิวไปตามลม  ในขณะที่สามมุขกำลังนั่งดูหนุ่มสาวและเด็กๆที่กำลังเล่นว่าวกันอยู่บริเวณภูเขา ก็ได้มีว่างอยู่นั้นหนึ่งมาตกอยู่ตกหน้าสามมุขจึงได้เก็บขึ้นมาดู ประจวบเหมาะกับตอนที่นายแสนกำลังวิ่งตามหาว่าวจึงได้มาเจอกับสามมุขและว่าวที่อยู่ในมือ นายแสนจึงได้ขอว่าวอันนี้คืนกับสามมุข แต่สามมุขก็เหมือนจะไม่คืนเนื่องจากไม่รู้ว่าว่าวนี้เป็นว่าวของนายแสนจริงหรือไม่ ทำให้สองคนนี้ต้องคุยกันอยู่นานจนทำให้ได้รู้จักกัน นายแสนจึงตัดสินใจไม่เอาว่าวคืน แต่กลับมอบให้สามมุขเพื่อเป็นของที่ระลึก เพราะที่ได้พูดคุยทำความรู้จักกันนั้นก็เกิดมีความรู้สึกดีๆต่อกัน หลังจากทั้งสองก็ได้เริ่มสนิทกันมากขึ้นและได้มาเจอกันบ่อยๆที่บริเวณภูเขา จากความสนิทที่เป็นเหมือนเพื่อน ก็ได้กลายเป็นความรักความผูกพัน ทั้งสองคนจึงได้สาบานรักกันต่อหน้าภูเขาที่ทั้งสองคนได้พบกัน ‘‘ว่าจะรักและอยู่ด้วยกันไปจนชั่วนิจนิรันดร์ หากใครผิดคำสาบานหรือมีอุปสรรคที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จะต้องมากระโดดหน้าผานี้ตายตามกัน’’ อยู่มาวันหนึ่งเรื่องราวของลูกชายสุดที่รักอย่างนายแสนก็ได้มาถึงหูพ่อกำนัน ทำให้กำนันบ่ายโมโหไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ลูกชายไปรักกับผู้หญิงที่ยากจน กำนันบ่ายจึงทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันทั้งสองคน และได้หาหญิงสาวที่มีฐานะดีเหมือนกันมาให้ลูกชายแต่นายแสนก็ไม่ได้ชอบพอ เมื่อถึงวันลอยกระทงแสนกับมุขได้นัดกันมาเจอ แต่กำนันบ่ายที่รู้เรื่องก็ได้จับแสนขังไว้เพื่อรอวันแต่งงานกับผู้หญิงที่หาให้ ทำให้สามมุขรอแต่ก็รอเก้อและรออยู่หลายวันนายแสนก็ไม่มา เมื่อใกล้ถึงวันที่นายแสนจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อหาให้ เพื่อนของสามมุขได้มาบอกสามมุขว่านายแสนกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวบ้านเศรษฐี เมื่อสามมุขรู้แบบนั้นก็เศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจนำแหวนที่แสนคอยมอบให้มาคืนในวันงานแต่ง แล้วก็วิ่งหนีมาที่ภูเขาที่ทั้งสองได้พบรัก และสาบานรักต่อกัน นายแสนที่รักสามมุขมากจึงหนีงานแต่งวิ่งตามสามมุขไป เพื่อจะชวนให้หนีไปอยู่ด้วยกันแต่แล้วนายแสนก็มาไม่ทันเวลา เนื่องจากสามมุขได้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายไปแล้ว นายแสนที่เห็นเช่นนั้นจึงโศกเศร้าเสียใจและได้ตัดสินใจโดดหน้าผาตามคนรักไปตามคำสาบานที่เคยให้ไว้ กำนันบ่ายที่วิ่งตามลูกชายมาได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ลูกชายกระโดดลงจากหน้าผา กำนันบ่ายเสียใจเป็นอย่างมากพรางรู้สึกผิดที่ตนเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวต้องมาตายเพราะความเห็นแก่ตัวของตนเอง กำนันจึงทำได้เพียงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับทั้งสอง หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปไม่นาน ชาวบ้านที่ได้เดินผ่านไปในละแวกนั้นก็ได้พบวิญญาณของทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าภูเขาที่ได้โดดลงไป เมื่อชาวบ้านได้เห็นเช่นนั้น จึงได้สร้างศาลเพียงตาให้บนเขาลูกนั้นและได้ตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่า ‘‘ เขาสามมุข ’’ ส่วนศาลเพียงตาอีกที่พ่อกำนันได้สร้างให้ลูกชายอยู่บริเวณชายหาดและได้ตั้งชื่อชายหาดนั้นว่า ‘‘ หาดบางแสน ’’ เพื่อให้ได้เป็นอนุสรณ์ความรักความซื่อสัตย์ของทั้งสองคน 

ต่อมาในอีกหลายปีชาวบ้านในพื้นที่ที่ทำการประมงได้ไปขอพรที่ศาลบนภูเขาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองตอนที่ออกทะเล และขอให้หาปลากลับมาได้เยอะๆคำขอนั้นก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อมีคนมาขอบ่อยครั้งเข้าคนในพื้นที่จึงได้เชื่อว่า หากเมื่อไหร่ที่ต้องออกทะเลจะมาขอพรกับเจ้าแม่สามมุข เพื่อให้คุ้มครองตนจากภัยพิบัติทางทะเล พร้อมด้วยนำขนมเปี๊ยะ ผลไม้ มะพร้าวอ่อนมาเซ่นไหว้ ต่อมาก็ได้มีคนมาขอพรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้ามาขอพรให้ค้าขายดี คนที่ทำธุรกิจต่างๆ บ้างก็มาบนในเรื่องของการเกณฑ์ทหาร ที่ดิน หากผู้ที่บนแล้วคำขอนั้นสัมฤทธิ์ผลจะมีการแก้บนด้วยการถวายหัวหมู เป็ดไก่ หากเป็นคำขอที่ใหญ่ ก็จะแก้ด้วยการรำบวงสรวง ถวายหนังกลางแปลง ลิเก หรือหากใครที่ไม่มีทรัพย์สินมากพอก็ได้แก้บนด้วยการเดินเท้าจากอำเภอเมืองชลบุรีเพื่อมาไหว้เจ้าแม่สามมุข

 

สรุป 

ตำนานรักอมตะ เขาสามมุข หาดบางแสน คือตำนานความรักที่ต่างชั้นชนของสามมุขและนายแสน ที่ถูกสถานะทางสังคมกีดกันจนทำให้ทั้งสองฆ่าตัวตายตามคำสาบานที่เคยให้กันไว้ จนได้เกิดเป็นชื่อเขาสามมุข และหาดบางแสนมาจนถึงปัจจุบัน

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำสิ่งดีๆ ที่จะช่วยสร้างโชคลาภให้ทุกท่าน Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด