ถ้าพูดถึงใจกลางโลกมีเมือง ใต้พิภพอยู่จริงหรือเปล่า ซึ่งเรื่องราวตรงนี้ก็มีหลายๆอย่างที่พูดถึงเกี่ยวกับเมืองใต้พิภพ ตัวอย่างเช่นการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ หรือเกมส์ต่างๆก็มีมายมาย แต่อีกหนึ่งสิ่งที่คนเราชอบพูดถึงเรื่องของใจกลางโลก คือโลกของเรานั้นมีอีกโลกหนึ่งอยู่ และมีดวงอาทิตย์ที่คอยส่องสว่างให้พลังงานแก่พืชพรรณต่างๆ และสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้น และว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใจกลางโลกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้วกว่าร้อยปี หรือหลายพันปีหรือหลายหมื่นปีอาศัยอยู่ และที่สำคัญกว่านั้นคือได้มีทฤษฎีที่ว่าใจกลางโลกแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ภูมิปัญญามากกว่ามนุษย์เราหรือมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่ด้วยนั้นเอง
ทั้งนี้ ก่อนจะไปต่อกันในบทความ มีตำนานต่างๆอีกมากมายที่จะทำให้ผู้อ่านได้สนุกและเพลิดเพลิน ที่สามารถติดตามได้ที่ คนมีดวง เว็บข่าวสารดีๆเสริมความปังให้กับทุกๆคน
ข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์
ตามข้อมูลไม่สามารถยืนยันได้ว่าโลกของเรา มีโลกอีกใบอยู่ในใจกลางโลกหรือป่าว แต่ ข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อถือการจากภาพถ่ายดาวเทียม คลื่นสัญญาณที่ปล่อยไปตามพื้นดิน หรือแม้แต่การขุดเจาะต่างๆ เขาคาดเดาได้เพียงแค่ว่าใต้พื้นโลกที่เรายืนอยู่ ณ ตรงนี้มีพื้นที่จำนวนชั้นที่แบ่งกันอยู่ประมาณ 5 ชั้น นั่นก็คือชั้นธรณีภาค ชั้นฐานธรณีภาค เนื้อโลกชั้นล่าง แก่นโลกชั้นนอก และแก่นโลกชั้นใด ซึ่งส่วนใหญ่นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ก็เชื่อกันแบบนี้ แต่ก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์บางคนหรือกลุ่มคนบางกลุ่มเชื่อแบบอื่นหรือ และตั้งทฤษฎีขึ้นมาที่ค่อนข้างน่าสนใจและมีอีกหลากหลายทฤษฎี ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของโลกแบน โลกเป็นทรงวงรีหรือแม้แต่โลกเป็นทรงสี่เหลี่ยมบ้างก็มีเช่นกัน แต่ทฤษฎีที่คนพูดถึงมากที่สุดรองลงมาจากเรื่องของที่เขาสรุปกันไปแล้ว นั่นก็คือทฤษฎีโลกกลวงนั่นเอง
ทฤษฎีโลกกลวง
ข้อมูลที่บันทึกไว้บอกว่าการพูดถึงครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1692 โดยนักดาราศาสตร์คนนึงที่มีชื่อว่า Edmond Halley จากทฤษฎีที่เขาตั้งคำถามขึ้นมาในหัว และตั้งข้อสงสัยขึ้นมาว่าโลกของเราจากการตรวจสอบ ในเวลานั้นแล้วค้นพบว่าโลกของเรามีสนามแม่เหล็กมากกว่า 1 สนามและสนามแม่เหล็กมีการผันเปลี่ยนผันแปรอยู่ตลอดเวลา เขาเลยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมสนามแม่เหล็กของแต่ละที่มันไม่เหมือนกันแล้วทำไมมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พอคิดไปคิดมาเขาก็เลยตั้งทฤษฎีหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือทฤษฎีที่บอกว่าโลกของเรานั้นมีแกนโลกและมีใจกลางอีกจุดหนึ่งที่ปล่อยสนามแม่เหล็กที่แตกต่างออกมา และไม่เหมือนกับสนามแม่เหล็กที่อยู่ภายนอกโลกนั่นเอง หลังจากที่เขาได้ตั้งทฤษฎีนี้ขึ้นมาเขาก็ได้อธิบายให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนและคนทั่วไป ให้เข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีของเขาในเรื่องของโลกและภายใต้พื้นดินที่ว่าจริงๆแล้วประกอบไปด้วยสัณฐานอยู่ 4 ชั้นด้วยกันโดย 4 ชั้นจะวางซ้อนทับกันอยู่แล้วตรงกลางจะเป็นช่องกลวง โดยใจกลางนั้นจะมีดวงอาทิตย์อีกดวงหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางนั้นคอยให้แสงสว่างกับพืชกับสัตว์ที่อยู่ใจกลางโลก และปล่อยสนามแม่เหล็กที่มันแตกต่างจากสนามแม่เหล็กนอกโลกออกมานั่นเอง ซึ่งตรงนี้เขาก็ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใจกลางโลกแห่งนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาเพราะสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใจกลางโลก เป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้วไม่ว่าจะเป็นทั้งไดโนเสาร์หรือสิ่งมีชีวิตก่อนยุคประวัติศาสตร์ต่างๆ ก็อาจจะอาศัยอยู่ใจกลางโลกนี้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงนี้ได้มีการอ้างอิงหลักฐานทฤษฎีตรงนี้ จากเรื่องของแสงเหนือแสงใต้นั้นเอง
ทฤษฎีการเกิดแสงเหนือแสงใต้
โดยตามทฤษฎีของ Edmond Halley บอกไว้ว่าแสงเหนือแสงใต้หรือแสงเกิดจากก๊าซที่เล็ดลอดออกมาจากภายใต้เปลือกโลก และมากระทบกับแสงอาทิตย์ซึ่งทำให้เกิดเป็นแสงสวยงามเกิดขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าโลกของเรานั้นไม่ได้ตัน แต่โลกของเรานั้นกลวง และมีพื้นที่ที่สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ใจกลางโลกได้นั่นเอง และจากทฤษฎีนี้ที่ได้มีการเผยแพร่ออกมาเรื่อยๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และคนที่สนใจเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยแตกต่างกันออกไป เลยมีการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ Edmond Halley พูดมานั้นมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าสิ่งที่พูดมานั้นเป็นเรื่องจริงแสดงว่ามันจะต้องมีทางเข้าและทางออกไปสู่ใจกลางโลกนี้ เขาก็เลยบอกไปว่าทางเข้าออกนั้นอยู่ทางขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้โดยทางเข้านั้นน่าจะมีขนาดใหญ่กว่า 4,000 กิโลเมตรและ 6,000 กิโลเมตรเลย สุดท้ายพอมีการเดินทางไปสำรวจปรากฏว่าไม่พบทางเข้าของใจกลางโลกอย่างที่ Edmond Halley ได้ตั้งทฤษฎีไว้นั้นเอง และยังมีเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาว่ามีเมืองใต้พิภพอยู่ใจกลางโลกอีกด้วย
เมืองใต้พิภพ
ตามข้อมูลที่มีการบันทึกบอกว่า ได้มีนักเดินเรือคนหนึ่งอ้างว่าเขาได้เข้าไปพบเจอเมืองหนึ่งที่มีชื่อว่า เมือง ฮการ์ธาร์ (Agharta) และได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนั้นกว่า 2 ปีก่อนที่เขาจะออกมา และไม่เคยเจอเมืองนั้นอีกเลย ซึ่งข้อมูลตรงนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ The Smoky God ในปี 1908 โดย Willis George Emerson โดยได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินเรือของนักเดินเรือคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Olaf Jensen นักเดินเรือชาวนอร์เวย์ ที่อ้างว่าได้เล่นเรือผ่านไปที่ขั้วโลกเหนือ และไม่เจอกับประตูทางเข้าของเมืองปริศนาอย่างเหลือเชื่อ และเขาก็ได้แล่นเรือเข้าไปในประตูเมืองแห่งนั้น และได้พบว่าเมืองแห่งนี้มีชื่อว่า ฮการ์ธาร์ (Agharta) ความรู้สึกที่เข้าไปนะตอนแรกเหมือนกับว่าหลังจากที่หลุดออกมาจากขั้วโลกเหนือ ก็เข้าไปอีกดินแดนหนึ่งที่เป็นโลกอีกโลกหนึ่งเลย ตามข้อมูลที่บันทึกไว้เขาได้บอกไว้ว่าผู้คนในเมืองแห่งนี้อาศัยความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่อยู่สูงที่สุดบนใจกลางของเมืองเลี้ยงดูสัตว์ และปลูกพืชและใช้แสงในการดำเนินชีวิตต่างๆนาๆมากมาย และผู้คนในเมืองแห่งนี้มีความสูงถึง 12 ฟุตมีรูปร่างที่ค่อนข้างใหญ่โต และมีระบบการปกครองที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน แต่ระบบการปกครองที่ยิ่งใหญ่นั้นก็มีแต่ความอบอุ่น และมีแต่การให้ไม่ได้มีความคิดที่ชั่วร้ายหรือมีความคิดที่อิจฉากันเลย เขาเลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมชาวเมืองนี้ไม่เกิดความอิจฉากัน ทำไมถึงไม่มีการแก่งแย่งชิงดินแดนหรือมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ตรงนี้ข้อมูลเขาได้บอกไว้ว่าจริงๆแล้วชาวเมืองนี้สมัยก่อนเคยอยู่บนพื้นดินเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่เพราะความอิจฉาของมนุษย์นั้นทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงอำนาจ และแก่งแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติ จนสุดท้ายชนเผ่าที่เคยอยู่บนพื้นดินก็ล่มสลายไปเหลือแต่เพียงคนเร่ร่อนที่เคยเป็นอดีตชนเผ่า พวกเขาก็เลยได้รวมตัวกันมาอยู่ในพื้นที่หนึ่งที่เขาสามารถอาศัยอยู่ได้ และพวกเขาก็ได้เดินทางลาดตระเวนไปเรื่อยๆ จนมาถึงพื้นที่นี้และรู้สึกว่าพื้นที่แห่งนี้สามารถปักหลัก และอาศัยอยู่ได้เขาเลยตั้งถิ่นฐานในที่ตรงนี้นั่นเอง
สรุป
ตำนานปริศนาเมืองใต้พิภพ เกิดขึ้นจากทฤษฎีโลกกลวงซึ่งเป็นทฤษฎีที่มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และก็ได้มีการพิสูจน์เพื่อหาคำตอบจากทฤษฎีนี้ แต่สุดท้ายคำตอบที่ว่าโลกของเรากลวง และมีเมืองหรือสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ภายในใจกลางโลกจากการสำรวจและหาคำตอบ สิ่งเหล้านี้ก็ไม่พบฐานหรือพบเจอทางเข้าที่ว่าตามทฤษฎีนี้เลย และเรื่องนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังคงเชื่อว่าทฤษฎีนี้น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะได้มีการบอกเล่าเกี่ยวกับการไปเจอทางเข้าไปเมืองใต้พิภพและได้มีคำบอกเล่าต่อๆกันมาจนกลายเป็นตำนานที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้จนมาถึงปัจจุบันนั้นเอง
เมื่อสนุกกับการอ่านตำนานแล้วอย่าลืมมาสนุกกับการเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด