ชนเผ่าปริศนาครึ่งคนครึ่งสัตว์ ในอดีตเคยมีจริงไหม

ชนเผ่าปริศนาครึ่งคนครึ่งสัตว์ ในอดีตเคยมีจริงไหม

ชนเผ่าปริศนาครึ่งคนครึ่งสัตว์ ในอดีตเคยมีจริงไหม

ถ้าพูดถึงชนเผ่าแปลกประหลาด ได้มีอยู่ครั้งหนึ่งในอดีตที่นักศึกษาธรรมชาติต้องการที่จะจัดลำดับหมวดหมู่ชนเผ่าพื้นเมืองโบราณเพื่อที่จะได้ง่ายต่อการค้นหา และการอัพเดทข้อมูลปรากฏว่า ได้มีชนเผ่าประหลาดเกิดขึ้นหลายชนเผ่ามาก และชนเผ่าเหล่านี้ไม่ได้มีร่างกายเป็นมนุษย์ และมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป แต่ที่มีร่างกายแปลกประหลาดผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น ชนเผ่าที่มี 2 เพศในคนเดียวกันชนเผ่าที่เดินกลับหลัง หรือชนเผ่าที่ไม่มีปากแต่กินอาหารผ่านรูจมูกประมาณนี้ ซึ่งชนเผ่าเหล่านี้ได้มีบันทึกไว้ในอดีตมากมาย และในบทความนี้จะมาพูดถึงเกี่ยวกับชนเผ่าแปลกประหลาด ที่บอกว่าหนึ่งในชนเผ่าพวกนี้มีร่างกายครึ่งคนครึ่งสัตว์อีกด้วย

“คนมีดวง” เว็บข่าวสารดีๆ เสริมความปัง ให้กับทุกๆคน

ชนเผ่าคนไร้หัวแห่งแอฟริกา

ตามข้อมูลเขาได้บอกไว้ว่าที่ประเทศลิเบียในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลได้มีบันทึกการค้นพบชนเผ่ากลุ่มหนึ่ง ที่ไม่มีศีรษะอยู่บนบ่าแต่มีหัวไหล่มีลำตัวมีแขน และมีขาเพียงเท่านั้น ส่วนใบหน้าและองค์ประกอบต่างๆในใบหน้าไปอยู่ที่กลางลำตัวหมดเลย ซึ่งชนเผ่านี้เคยปรากฏอยู่ในบันทึกของ เฮอรอโดทัส ที่เขาได้ไปฟังมาจากชาวลิเบียแล้วเขียนบันทึกเอาไว้ และยังมีข้อมูลเพิ่มเติมบอกว่าประมาณ 400 ปีต่อมาหลังจากที่มีการค้นพบครั้งแรกได้มีนักปราชญ์ชาวโรมันคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Gaivs Plinivs Secvndvs (พลินีผู้อาวุโส)  เขาก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ออกมายืนยันว่าชนเผ่าไร้หัวเหล่านี้มีอยู่จริงและตัวเขาเองได้พบเจอมาแล้ว

ชนเผ่าตาเดียว (The Arimaspoi)

โดยข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าตาเดียว ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นไว้ว่าลึกเข้าไปในหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะหนาที่มีชื่อว่า Ripheanได้มีชนเผ่าหนึ่งที่ชื่อว่า Arimaspoi อาศัยอยู่ซึ่งชนเผ่านี้แปลกประหลาดกว่าชนเผ่าอื่น คือมีดวงตาเพียงดวงเดียวอยู่บนใบหน้าและมีร่างกายที่ใหญ่โตกับกำลังที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า ว่ากันว่าชนเผ่านี้อาจจะเป็นชนเผ่ายักษ์ตาเดียวในตำนานที่ปรากฏอยู่ทั่วโลกก็เป็นได้ และหลักฐานชิ้นสำคัญที่เขาเชื่อกันว่าชนเผ่าตาเดียวหรือชนเผ่ายักษ์ตาเดียวอาจจะมีอยู่จริงบนโลกก็คือได้มีการค้นพบหัวกะโหลกที่มีรูดวงตาเพียงรูเดียวอยู่บนใบหน้านั้นเอง

ชนเผ่าปริศนาครึ่งคนครึ่งสัตว์ ในอดีตเคยมีจริงไหม

ชนเผ่าสตรีแห่งเมืองจีน

ข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าสตรี ได้บอกไว้ว่าเมื่อประมาณต้นปีคริสตศักราชที่ 500 ได้มีนักสำรวจชาวจีนคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ฮุ่ยเฉิน (Hui Shen) ได้เดินทางไปยังตะวันออกไกลของประเทศจีน เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างจากทฤษฎีที่เขาได้เป็นคนค้นพบ แต่ปรากฏว่าในวันที่เขาได้กลับมาจากการค้นคว้า และการสำรวจข้ออ้างว่าเขาได้เดินทางไปยังอาณาจักรหนึ่งที่มีชื่อว่าอาณาจักรฟู่ซาง ซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีแต่ผู้หญิงและไม่มีผู้ชายอยู่แม้แต่คนเดียว เขาเล่าว่าผู้หญิงที่อยู่ในอาณาจักรนี้มีหน้าตาที่สวยงามมีรูปร่างที่ดีแต่มีขนปกคลุมทั่วร่างกายคล้ายกับลิง และเขายังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าหากหญิงสาวที่อยู่ในอาณาจักรนี้ต้องการที่จะมีลูกพวกเขาเหล่านั้นจะต้องไปอยู่ในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลาสักพักหนึ่ง และเด็กก็จะค่อยๆก่อตัวในมดลูกของพวกเธอ ซึ่งระยะเวลาการตั้งท้องของผู้หญิงในเมืองนี่ จะสั้นกว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 3 เท่าหรือจะตั้งท้องเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้นเด็กก็จะสามารถคลอด และมีชีวิตได้อย่างปกตินั้นเอง

 

ชนเผ่าครึ่งคนครึ่งสัตว์ (The Calystrii)

ตามข้อมูลได้บอกไว้ว่าในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตศักราช ได้มีนักปราชญ์ชาวกรีกคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ทีเซียส ( Ctesias) ได้บันทึกการสำรวจของเขาไว้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยได้ไปอินเดีย ในสมัยนั้นเขาได้มาเจอกับชนเผ่าหนึ่งที่มีท่อนล่างเป็นมนุษย์แต่มีท่อนบนเป็นสุนัข และที่สำคัญในตอนที่เขาไปพบ เขาต้องการที่จะสื่อสารกับชนเผ่าเหล่านี้ แต่ชนเผ่าครึ่งคนครึ่งสุนัขไม่ใช้ภาษามนุษย์หรือภาษาของคนทั่วไป แต่สื่อสารกันโดยการเห่า เหมือนเป็นภาษาที่เขาใช้สื่อสารกันอยู่ ในข้อมูลบอกว่าหลังจากที่ทีเซียสค้นพบชนเผ่านี้เวลา 200 ปี ก็ได้มีชายคนหนึ่งชื่อว่า Megasthenes ต้องการที่จะพิสูจน์บันทึกการเดินทางของ ทีเซียส เขาเลยเดินทางไปสถานที่ในบันทึก ปรากฏว่าในเวลาต่อมาที่เขากลับมายังหมู่บ้าน ที่เขาอยู่เขาออกมาประกาศและยืนยันว่าชนเผ่าครึ่งคนครึ่งสุนัขมีอยู่จริงบนโลก และเขาได้เห็นมากับตาทั้งสองข้างของเขามาแล้วด้วย ซึ่งต่อมาชนเผ่าครึ่งคนครึ่งสุนัขก็ยังถูกพูดถึงมาเรื่อยเรื่อย ตั้งแต่ชาวกรีก มาถึงชาวอินเดียแล้วก็ยังมาถึงชาวจีนอีกด้วย ซึ่งตรงนี้ทุกๆคนที่พูดถึงล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียง และยืนยันว่าชนเผ่านี้มีอยู่จริง แต่ถ้าเอาคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด และควรเชื่อว่าคนนี้ไปเจอมาจริงคนๆนั้นก็คือนักสำรวจโบราณ Marco Polo นั่นเอง

 

สรุป 

ชนเผ่าประหลาด หรือชนเผ่าครึ่งคนครึ่งสัตว์ที่ถูกพูดถึง และมีบันทึกไว้ในอดีตมากมาย ถ้ามองในยุคสมัยนั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจกับผู้คน หรือนักสำรวจที่ได้พบเห็นอย่างแน่นนอน แต่ถ้าพูดถึงปัจจุบันทางด้านวิทยาศาสตร์ก็คงจะสรุปได้ว่า ชนเผ่าเหล่านี้ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์อาจจะเป็นเพียง คนที่เกิดมาแล้วมีพันธุกรรมผิดแปลกไป ทำให้ร่างกายผิดปกติไปจากมนุษย์คนอื่นก็เป็นได้ แต่ในมุมความเชื่อก็มองได้ว่าเช่าเผ่าเหล่านี้อาจจะมีอยู่จริงๆ บนโลกเราก็เป็นได้แต่ในปัจจุบันชนเผ่าประหลาดพวกนี้ก็ได้หายสาบสูญไป และไม่มีใครได้พบเจอพวกเขาอีกเลย

อ่านบทความจบแล้ว อย่าลืมเสี่ยงโชคกับ Lottosod59 เว็บออโต้กระเป๋าเดียวที่ดีที่สุด